วันอังคารที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๖๓ ณ โรงแรมแลงคาสเตอร์ กรุงเทพฯ นางสุวรรณี สิริเวชชะพันธ์ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะผู้แทนสมาชิกรัฐสภาไทย เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับความเข้าใจ และตระหนักในเรื่องเพศสภาพ (Gender Sensitivity Training Workshop) เป็นวันที่สอง โดยในช่วงเช้า ที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับจำนวนวันลาคลอดในกลุ่มประเทศสมาชิก AIPA โดยประเทศ สมาชิก AIPA ที่มีจำนวนวันลาคลอดมากที่สุดคือ ฟิลิปปินส์ จำนวนวันน้อยที่สุดคือ กัมพูชา สำหรับ ประเทศไทยอยู่ในระดันปานกลางคือ แม่ของเด็กสามารถลาได้ จำนวน ๙๘ วัน และพ่อของเด็กสามารถ ลาได้ จำนวน ๑๕ วัน ตามกฎหมาย ในการนี้ ที่ประชุมมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพิ่มเติมเรื่องการเพิ่มจำนวนวันลาคลอด ซึ่ง นางสุวรรณี สิริเวชชะพันธ์ ได้แสดงความคิดเห็นว่า การพิจารณาเรื่องดังกล่าว ควรศึกษาข้อคิดเห็นและ ผลกระทบจากผู้ประกอบการภาคธุรกิจร่วมด้วย รวมทั้งพิจารณาโอกาสและความเป็นไปได้ในการได้รับ การจ้างงานของผู้หญิงด้วยเช่นกัน พร้อมกันนี้ได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มประชากรหญิงและ ชายภายในประเทศ รวมทั้งประเด็นปัญหาที่กระทบต่อความเท่าเทียมกันทางเพศและการส่งเสริม ขีดความสามารถของผู้หญิงในประเทศไทย โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้ ปัจจุบันจำนวนประชากรหญิง และชายในประเทศไทยมีสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน โดยผลสำรวจของนักวิจัยในปี ๒๕๖๒ ผู้หญิงไทย มีการศึกษาและมีความสามารถในการทำงานนอกบ้านเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งมีแนวโน้มที่จะเป็นผู้นำเพิ่มขึ้น ด้วย ซึ่งในกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ผู้หญิงไทยมีบทบาทในการเป็นผู้นำร้อยละ ๔๒ เป็นอันดับสาม รองจากฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย ทั้งนี้ แม้ว่าประเทศไทยจะออกกฎหมายที่ครอบคลุม รวมทั้งส่งเสริมให้ผู้หญิงมีส่วนร่วมในการ พัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติแล้ว แต่ยังคงพบกรณีที่ผู้หญิงได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียม โดย ประเด็นความท้าทายที่สำคัญในปัจจุบัน คือ เรื่องอัตราค่าจ้างค่าตอบแทน โอกาสและความก้าวหน้าที่ ไม่เท่าเทียมกัน ซึ่งในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติได้ร่างและแก้ไขกฎหมายให้มีประสิทธิภาพ ทันเหตุการณ์ รวมถึงการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและในปัจจุบันประเทศไทยมี พ.ร.บ. ค วามเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. ๒๕๕๘ ที่ให้ความสำคัญกับการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ (แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๒) ที่ดูแลกรณีที่งานมีลักษณะและ คุณภาพเช่นเดียวกัน ปริมาณเท่ากันนายจ้างจะต้องกำหนดค่าจ้าง ค่าล่วงเวลาเท่าเทียมกันไม่ว่าลูกจ้าง จะเป็นชายหรือหญิง นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาเพื่อร่าง พ.ร.บ. หุ้นส่วนทางแพ่งเพื่อประกันสิทธิทาง กฎหมายของกลุ่ม LGBTI ด้วย เครดิต : ภาพและข่าวโดยสำนักองค์การรัฐสภาระหว่างประเทศ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร |