วันพุธที่ ๘ มกราคม ๒๕๖๓ เวลา ๐๙.๓๐ นาฬิกา ณ จุดแถลงข่าว ชั้น ๑ อาคารรัฐสภา
เกียกกาย นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแนวทาง
การบริหารจัดการกลุ่มลุ่มน้ำเจ้าพระยา-ป่าสัก แถลงข่าว เรื่องปัญหาวิกฤติน้ำของประเทศไทย
ซึ่งคณะอนุ กมธ. ได้มีการประชุมหารือในประเด็นดังกล่าว เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาอย่าง
เร่งด่วนอย่างเป็นระบบโดยจะลงพื้นที่เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาน้ำแล้งในระยะยาว โดยการ
ชะลอน้ำก่อนลงสู่ทะเล เพื่อเก็บกักน้ำ และผันน้ำเข้าสู่ประเทศไทย เพื่อจะได้มีน้ำใช้ตลอดปี
ส่วนการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าคือ จะหาทางบูรณาการบำรุงรักษาห้วย หนอง คลอง บึง ให้
สามารถเก็บกักน้ำไว้ใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้าน น.อ. สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ อธิบดี
กรมอุตุนิยมวิทยา ในฐานะที่ปรึกษาคณะอนุ กมธ. กล่าวว่า กรมอุตุนิยมวิทยาคาดหมาย
ปริมาณฝนของประเทศไทยในช่วงครึ่งแรกของปี ๒๕๖๓ ว่าบริเวณประเทศไทยตอนบน
ยังคงมีฝนน้อยโดยมีปริมาณฝนรวมประมาณ ๔๐๐ - ๖๐๐ มิลลิเมตรเท่านั้น คาดว่าปริมาณฝน
จะยังคงมีน้อยต่อเนื่องจากปี ๒๕๖๒ และโอกาส ที่จะมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนเข้าสู่
ประเทศไทยในช่วงครึ่งปีแรงมีน้อยมาก อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนมีนาคมถึงต้นพฤษภาคม
ซึ่งอยู่ในช่วงฤดูร้อน มักจะเกิดพายุฤดูร้อนในหลายพื้นที่ ซึ่งมีลักษณะพายุฝนฟ้าคะนอง และ
ลมกระโชกแรง รวมทั้งอาจมีลูกเห็บตกในบางพื้นที่ ซึ่งสภาวะดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความ
สูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนผลผลิตทางการเกษตรได้ ส่วนปริมาณฝนที่ตกนั้น
ยังคงมีไม่เพียงพอกับความต้องการในหลายพื้นที่ ทั้งด้านอุปโภค บริโภค การรักษาระบบ
นิเวศและด้านเกษตรกรรม โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่แล้งซ้ำซากนอกเขตชลประทาน ดังนั้น
ประชาชนจึงควรใช้น้ำอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุด และเกษตรกรควรเตรียม
พร้อมป้องกันความเสียหายจากการขาดแคลนน้ำไว้ล่วงหน้าด้วย
|