วันพุธที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๒ เวลา ๐๙.๑๐ นาฬิกา ณ จุดแถลงข่าว ชั้น ๑ อาคารรัฐสภา
เกียกกาย นายมานะ โลหะวณิชย์ ประธานคณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค แถลงข่าวว่า
ได้พิจารณา พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. ๒๕๖๒ ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เมื่อ ๑๒ มี.ค. ๖๒ และให้มีผลบังคับใช้ ๑ ม.ค. ๖๓ เป็นต้นไป ซึ่งต่อมาได้มีการประกาศเลื่อน
ใช้บังคับเป็นเดือน ส.ค. ๖๓ เนื่องจากดำเนินการออกกฎหมายลูกไม่แล้วเสร็จ ขณะเดียวกัน
กฎหมายดังกล่าวมีปัญหาในความไม่ชัดเจนและไม่เป็นธรรมในเรื่องต่าง ๆ คือ ๑. เรื่องการยกเว้นภาษี สำหรับที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ในการเกษตรกรรม แต่มีปัญหาคือ
ที่ดินขนาดเท่าไร จึงจะเข้าหลักเกณฑ์ ๒. กฎหมายไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการกำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้จัดเก็บภาษี
ซึ่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขาดบุคลากรที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญโดยตรง ๓. การกำหนดให้ผู้ครอบครองที่ดินหรือทำประโยชน์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นทรัพย์สิน
ของรัฐอยู่ในวันที่ ๑ ม.ค. ของปีไหนก็ให้เป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษี ซึ่งจะมีผลกระทบกับประชาชน
ผู้อยู่อาศัยในที่ดินเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) ซึ่งเป็นผู้มีรายได้น้อย ๔. ความพร้อมในการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวที่มีความซับซ้อนและมีรายละเอียดเงื่อนไข
จำนวนมาก ซึ่งยังรอการออกกฎหมายลูกที่สำคัญอีกหลายฉบับ
ดังนั้น กมธ. มีข้อเสนอแนะระยะสั้นคือ ๑. รัฐบาลควรเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายฉบับดังกล่าวออกไปจนกว่าจะมีกฎหมายลูกอย่างครบถ้วน ๒. รัฐบาลควรมีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนผู้เกี่ยวข้องตามรธน. พ.ศ.๒๕๖๐
มาตรา ๗๗ ในหลากหลายช่องทาง และมีข้อเสนอแนะระยะยาวคือ ขอให้รัฐบาลแก้ไขปรับปรุงหรือ
ยกเลิกกฎหมายดังกล่าว และให้นำกลับมาพิจารณาให้รอบคอบก่อนการบังคับใช้ต่อไป
|