วันจันทร์ที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๖๒ เวลา ๑๒.๓๐ นาฬิกา ณ จุดแถลงข่าว ชั้น ๑
อาคารรัฐสภา เกียกกาย นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร
แถลงข่าวกรณี นายไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เข้าประชุมสภาผู้แทนราษฎร และทางสภาฯ มิได้ดำเนินการจับกุมตามหมายจับ เนื่องจากยังไม่ขาดสมาชิกภาพ
ความเป็น ส.ส. หมายจับของศาลจังหวัดพัทยา ออกเพื่อให้นายไวพจน์
มาฟังคำพิพากษาในวันที่ ๑๕ ม.ค. ๖๓ โดยเมื่อวันที่ ๓ ธ.ค. ๖๒ ศาลจังหวัดพัทยา
ได้อ่านคำพิพากษาในคดีที่นายไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส. จังหวัดกำแพงเพชร
พรรคพลังประชารัฐ เป็นจำเลย กรณีปิดล้อมการประชุมอาเซียน ซึ่ง นายไวพจน์
ไม่ได้มาฟังคำพิพากษาในวันดังกล่าว ศาลจึงออกหมายจับเพื่อให้นายไวพจน์ มาฟังคำพิพากษาในวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๖๓
ดังนั้นในวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๒ ถือว่าสมาชิกสภาพของนายไวพจน์ อาภรณ์รัตน์
ยังไม่ขาดจากการเป็น ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๐๑ (๑๓) คือต้องคำพิพากษา
ถึงที่สุดให้จำคุก แม้จะมีการรอการลงโทษ เว้นแต่เป็นการรอการลงโทษในความผิด
อันได้กระทำโดยประมาท ความผิดลหุโทษ หรือความผิดฐานหมิ่นประมาท แต่ นายไวพจน์ ไม่ได้รับความคุ้มกันตามมาตรา ๑๒๕ ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งมาตรา ๑๒๕ คือในระหว่างสมัยประชุม ห้ามมิให้จับ คุมขัง หรือหมายเรียกตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภา ไปทำการสอบสวนในฐานะที่สมาชิกผู้นั้นเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาเว้นแต่ จะได้รับอนุญาตจากสภาที่ผู้นั้นเป็นสมาชิก หรือเป็นการจับในขณะ กระทำความผิดจึงสามารถจับกุม นายไวพจน์ ได้ตามหมายจับของศาล จังหวัดพัทยาได้
โดยศาลจังหวัดพัทยาต้องส่งหมายจับไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ตามขั้นตอนของการจับกุมตามหมายศาลเสียก่อนและในวันที่ ๔ ธ.ค.
ที่นายไวพจน์ เข้าประชุมสภา หากตำรวจ สน.บางโพ จะเข้าพื้นที่จับกุม
ในสภาผู้แทนราษฎร จะต้องมีหนังสือขอเข้าพื้นที่เพื่อจับกุมซึ่งปัจจุบัน
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ยังไม่ได้รับการประสานเพื่อเข้าพื้นที่ในการจับกุม แต่อย่างใด รวมทั้งยังไม่ได้รับการประสานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอเข้าพื้นที่จับกุมเช่นกันทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภา มีฐานะเป็นพนักงาน ฝ่ายปกครอง หรือตำรวจในพื้นที่ในอาคารรัฐสภา ตามพระราชบัญญัติ ระเบียบบริหารราชการฝ่ายรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๕๔ ซึ่งการจะจับนายไวพจน์
ได้ต้องมีหมายจับเสียก่อน ตามประมวลกฎหมายพิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๖๑ และมาตรา ๗๗ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภา จึงไม่มีอำนาจ และหน้าที่ ในการดำเนินการทำตามหมายจับสำหรับประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น ไม่ได้มีฐานะเป็นพนักงานปกครอง หรือตำรวจ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญา จึงไม่สามารถจับกุมตามหมายจับได้แต่อย่างใด |