วันพุธที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๒ เวลา ๑๒.๐๕ นาฬิกา ณ จุดแถลงข่าว ชั้น ๑ อาคารรัฐสภา
เกียกกาย นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร รับยื่นหนังสือ
จากผู้แทนกลุ่มนิสิตนักศึกษาที่ห่วงใยสถานการณ์บ้านเมือง เรื่อง ขอให้ นายชวน หลีกภัย
ประธานสภาผู้แทนราษฎร วางตัวเป็นกลางและปฏิบัติตามกฎหมาย เนื่องจากทางกลุ่มฯ
เห็นว่าการดำเนินการของประธานสภาผู้แทนราษฎรขัดต่อข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทน
ราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๒ ซึ่ง ส.ส. มีสิทธิขอให้มีการนับคะแนนใหม่ได้กรณีที่ผลการลงคะแนน
ห่างกันไม่เกิน ๒๕ เสียง แต่มิได้อนุญาตให้มีการออกเสียงใหม่แต่อย่างใด โดย นายสมบูรณ์
อุทัยเวียนกุล กล่าวว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎรปฏิบัติตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทน
ราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๒ ซึ่งสมาชิกมีมติให้ใช้เป็นกฎหมายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร และ
เชื่อว่าสมาชิกทุกคนควรจะต้องศึกษาข้อบังคับฉบับดังกล่าวมาแล้ว โดยเมื่อวันที่ ๒๗ พ.ย. ๖๒
ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ปฏิบัติตามข้อบังคับการประชุมฯ ข้อที่ ๘๕ เมื่อมีการออกเสียง
ลงคะแนนตามข้อ ๘๓ (๑) แล้ว ถ้าสมาชิกร้องขอให้มีการนับใหม่ โดยมีผู้รับรองไม่น้อยกว่า
ยี่สิบคน ก็ให้มีการนับคะแนนเสียงใหม่ และให้เปลี่ยนวิธีการลงคะแนนเป็นวิธีตามข้อ ๘๓ (๒)
เว้นแต่คะแนนเสียงต่างกันเกินกว่ายี่สิบห้าคะแนนจะขอให้มีการนับคะแนนเสียงใหม่ไม่ได้
ดังนั้น การที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรวินิจฉัยให้มีการนับคะแนนใหม่นั้น จึงเป็นการปฏิบัติตาม
ข้อบังคับการประชุมฯ และไม่ว่าใครขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรก็ต้องปฏิบัติ
ตามข้อบังคับฉบับดังกล่าวเช่นกัน ส่วนกรณีที่ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ยื่นหนังสือต่อประธาน
คณะ กมธ. การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ เรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของ
ประธานสภาผู้แทนราษฎร นั้น ขอให้คำนึงถึงวัตถุประสงค์หลักของการตั้งคณะ กมธ. ซึ่งมีหน้าที่
ในการศึกษาและตรวจสอบการทุจริตประพฤติมิชอบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศ เพื่อแก้ปัญหา
ให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ไม่ควรนำประเด็นทางด้านการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง
อีกทั้ง ประธานสภาผู้แทนราษฎรก็มีดำริ และปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีมาโดยตลอดในฐานะ
ผู้ออกกฎหมาย ไม่ควรทำผิดกฎหมายเสียเอง
|