วันพุธที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ เวลา ๑๕.๕๐ นาฬิกา ณ จุดแถลงข่าว ชั้น ๑ อาคารรัฐสภา
เกียกกาย นายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ โฆษกคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ แถลงผล
การประชุมกรรมาธิการ ซึ่งในวันนี้ที่ประชุมได้มีการประชุมเรื่องผลกระทบและแนวทางช่วยเหลือ
เกษตรกรจัดการยกเลิก การใช้สารกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง กรณีพาราควอต ไกลโฟเซต และ
คลอร์ไพริฟอส โดยเชิญปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อธิบดีกรมวิชาการเกษตรและเลขาธิการ
สภาเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางประเทศไทย มาให้ข้อมูล โดยกรมวิชาการเกษตร ได้ให้ข้อมูล
เกี่ยวกับผลกระทบของเกษตรกรต่อกรณีการยกเลิกสารทั้ง ๓ ตัว จะทำให้ศักยภาพการผลิตลดต่ำลง
ซึ่งในช่วงแรกจะมีปัญหา เพราะไม่มีสารหรือวิธีทดแทนที่ได้ประสิทธิภาพเหมือนทั้ง ๓ สารดังกล่าว
มีเพียงสารและวิธีทางเลือกซึ่งต้นทุนสูงและประสิทธิภาพต่ำกว่า ซึ่งเบื้องต้นได้รวบรวมสาร และ
วิธีทางเลือกจากงานวิจัยของกรมวิชาการเกษตร โดยให้ใช้วัตถุอันตรายในกลุ่มสารควบคุมผสมผสาน
กับการใช้แรงงานคนและการใช้เครื่องจักรกลเกษตร โดยนำหลักการจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสาน
มาใช้เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรทั้งนี้คณะกรรมาธิการได้มีข้อสังเกตข้อเสนอแนะดังนี้
๑.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ควรมีการสื่อสารทำความเข้าใจไปยังเกษตรกรถึงความจำเป็นที่ต้อง
มีการยกเลิกการใช้ ๓ สารเคมีดังกล่าว รวมถึงบอกถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นภายหลังที่มีการยกเลิก
และบอกถึงแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรวิธีการปรับตัวโดยใช้สารอื่นทดแทนตลอดจนแนวทาง
การปรับเปลี่ยนเป็นเกษตรอินทรีย์
๒.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ควรมีมาตรการเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกการ
ใช้ ๓ สารเคมีรวมทั้งควรเร่งหาสารชีวภัณฑ์ทดแทนเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่เกษตรกรใช้แทนสารเคมี
ทั้ง ๓ ชนิด
๓.ควรมีการกำหนดระยะเปลี่ยนผ่านอย่างเหมาะสมและมีระยะเวลาเพียงพอจากการยกเลิกใช้สารเคมี
เพื่อให้เกษตรกรปรับตัวได้ทัน
|