วันพุูธที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๒ เวลา ๑๓.๐๐ นาฬิกา
ณ จุดแถลงข่าว ชั้น ๑ อาคารรัฐสภา เกียกกาย
นายรังสิมันต์ โรม โฆษกคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน

แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมาธิการฯ เพื่อพิจารณากรณีปัญหาการ

คืนสัญชาติของคนไทยพลัดถิ่นในพื้นที่ จังหวัดชุมพร
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดพังงา และจังหวัดระนอง

โดยได้เชิญผู้แทนกรมการปกครองและผู้แทนมูลนิธิ
ชุมชนไทย เข้าร่วมประชุม เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหา
ร่วมกัน โดยจากการตรวจสอบและได้ออกบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่
คนไทยพลัดถิ่นที่ยื่นคำร้องต่อท้องที่แล้วบางส่วน และ
ยอมรับว่ายังมีจำนวนคนไทยพลัดถิ่นบางส่วนที่ยังไม่สามารถยื่นคำร้อง
ต่อท้องที่ของตนได้ เนื่องจากการยื่นคำขอต่อเจ้าหน้าที่ต้องอาศัยหลักฐาน
และการยืนยันตัวตนที่แสดงได้ว่ามีเครือญาติอยู่ในประเทศไทย
ซึ่งในปัจจุบันจำนวนไทยพลัดถิ่นที่ได้รับการรับรองแล้วมีประมาณ
๑๘,๐๐๐ คน ได้ดำเนินออกบัตรประจำตัวประชาชนประมาณ ๙,๐๐๐ คน
และอีกประมาณ ๙,๐๐๐ คน อยู่ในระหว่างขั้นตอนการดำเนินการ
โดยกรมการปกครองพยายามแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง
ด้านตัวแทนมูลนิธิชุมชนไท ได้ให้ข้อมูลว่าการดำเนินการเรื่องการพิสูจน์
ความเป็นคนไทยนั้นมีอุปสรรคในการเตรียมเอกสารยื่นคำขอต่อเจ้าหน้าที่
เนื่องจากคนไทยพลัดถิ่นอยู่อาศัยในหลายพื้นที่ อีกทั้งใน พ.ร.บ.
สัญชาติ พ.ศ. ๒๕๐๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ. สัญชาติ
(ฉบับที่ ๕) พ.ศ.๒๕๕๕ ได้กำหนดขั้นตอนการเตรียมเอกสาร
ไว้หลายขั้นตอน ตลอดจนท้องที่ที่ทำหน้าที่รับคำร้องยังไม่มีระบบ
การจัดการคำขอของคนไทยพลัดถิ่นได้อย่างเป็นระบบ
เท่าที่ควร ส่งผลให้การพิจารณามีความล่าช้าตกหล่นไม่เป็นไปตามกรอบ
ระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมาธิการ เห็นควรให้แก้ไข
กฎกระทรวง การพิสูจน์ และการรับรองความเป็นคนไทย
พลัดถิ่น พ.ศ.๒๕๕๕ ข้อ ๖ เพื่อให้การดำเนินการมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น