วันพุธที่ 10 กรกฎาคม 2567 เวลา 09.30 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ประธาน คณะ กมธ.การสวัสดิการสังคม พร้อมด้วยน.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 รับยื่นหนังสือจาก นางสุนี ไชยรส คณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า และกลุ่มภาคีเครือข่ายภาคประชาสังคมรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน (We fair) เรื่อง ติดตามงบประมาณสวัสดิการเฉพาะกลุ่ม เด็ก สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ ในร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะกรรมการแก้ปัญหาขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) ดังนี้ 1.กรณีเงินอุดหนุนเด็ก 0-6 ปี เดือนละ 600 บาท ปรับเป็นระบบถ้วนหน้า 2.เบี้ยความพิการ เดือนละ 800 บาท ปรับเป็น 1,000 บาท 3.เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เดือนละ 600-1,000 บาท ปรับเป็น 1,000 บาท 4.เงินอุดหนุนสตรีมีครรภ์ถ้วนหน้า (เดือนที่ 5-9) เดือนละ 3,000 บาท
จึงขอให้คณะ กมธ.โเร่งรัดติดตามกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมกับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมกิจการเด็กและเยาวชน กรมกิจการผู้สูงอายุ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ยกระดับนโยนายสวัสดิการโดยรัฐ ซึ่งจะมีผู้ได้รับประโยชน์ จำนวน 17 -26 ล้านคน ประกอบด้วย เด็กแรกเกิด 0-6 ปี จำนวน 67,293 คน สตรีมีครรภ์ จำนวน 475,874 คน ผู้สูงอายุ จำนวน 11.38 ล้านคน คนพิการที่มีบัตรคนพิการ จำนวน 2.14 ล้านคน นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ กล่าวภายหลังรับยื่นหนังสือว่า คณะ กมธ จะติดตามและเร่งผลักดัน ให้มีงบประมาณสวัสดิการสังคมให้เพียงพอต่อความต้องการประชาชนไทยกลุ่มเปราะบาง ต่อไป น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า กมธ.ได้พิจารณาเกี่ยวกับงบประมาณฯสวัสดิการไปแล้ว และทราบว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้รับการจัดสรรงบจำนวนน้อย ดังนั้น กมธ. จะขอติดตามและเร่งผลักดันงบสวัสดิการเพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้รับงบประมาณอุดหนุน โดยถ้วนหน้าต่อไป |