| วันอังคารที่ 18 มิถุนายน 2567 เวลา 13.00 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายศักดินัย นุ่มหนู ประธานคณะ กมธ.การเกษตรและสหกรณ์ และคณะ รับยื่นหนังสือจาก นายวสันต์ จีนหลง นายกสมาคมผู้ผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ นายนที โดดสูงเนิน นายกสมาคมโคนมก้าวหน้า และตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการจากทุกภาคทั่วประเทศ เรื่อง ขอความอนุเคราะห์ตรวจสอบประกาศคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินงานโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ประจำปีการศึกษา 2567
ด้วยสมาคมผู้ผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ สมาคมกลุ่มเกษตรกรผู้รวบรวมน้ำนมดิบ สมาคม SME ผู้รวบรวมน้ำนมดิบและแปรรูป ได้ประชุมหารือ ร่วมกัน จากประเด็นประกาศคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินงานโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ประจำปีการศึกษา 2567 ซึ่งส่งผลกระทบต่อเด็กนักเรียน เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมและผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการอาหารเสริม (นม)โรงเรียน ให้ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก สมาคมฯ จึงได้มีมติร่วมกัน เห็นชอบให้นำเสนอ ความเป็นมา ผลกระทบ และแนวทางแก้ไข เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ซึ่งประกอบด้วย 1. ให้เด็กนักเรียนได้ดื่มนม ซึ่งเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง 2. ส่งเสริมการเลี้ยงโคนมของเกษตรกรตลอดจนการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมสามารถขายน้ำนมดิบได้ 3. ผู้ประกอบการสามารถเข้าร่วมโครงการได้อย่างเป็นเสมอภาค และเป็นธรรมทุกภาคส่วนจึงมีความประสงค์ขอความอนุเคราะห์ท่านพิจารณายกเลิกประกาศคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินงานโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ประจำปีการศึกษา 2567 ที่ออกมาโดยขัดหรือแย้งกับมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 62 จึงไม่ชอบด้วยกฎหมายและมีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม ขอให้นำหลักเกณฑ์ฯ ของปีการศึกษา 2566 ที่มีความเป็นธรรมมากกว่า มาใช้ในการดำเนินการเพื่อจัดสรรอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ประจำปีการศึกษา 2567 ภาคเรียนที่ 2/2567 ไปพลางก่อน เนื่องจากแม้จะมีการจัดสรรโควตาไปแล้ว แต่ยังมีกระบวนการที่ยังต้องปฏิบัติอยู่ต่อไป จึงขอความเป็นธรรมและหวังให้รัฐสภาเป็นที่พึ่งในการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยหากยังไม่มีความคืบหน้าจะดำเนินการขั้นถัดไปโดยใช้กระบวนการในชั้นศาล
นอกจากนี้ สมาคมโคนมก้าวหน้า ซึ่งเป็นตัวแทนของเกษตรกรโคมนม ยังได้เสนอให้พิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงใน 3 ประเด็น ดังนี้ 1. เหตุใดคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน จึงออกประกาศเรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินงานโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ประจำปีการศึกษา 2567 โดยกำหนดปริมาณเนื้อนมรวม (Total Solid) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 11.45 ต่างจากประกาศประจำปีการศึกษา 2566 ฉบับที่ 2 ซึ่งกำหนดให้ปริมาณเนื้อนมรวมไม่ต่ำกว่าร้อยละ 12.25 การลดคุณภาพดังกล่าวส่งผลต่อพัฒนาการของนักเรียนหรือไม่ อย่างไร และมีเหตุผลทางวิชาการประกอบก่อนการตัดสินใจหรือไม่ 2. เหตุใดคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชนจึงมีการแบ่งสิทธิการจำหน่ายนมโรงเรียนสัดส่วนสหกรณ์ ร้อยละ 50 และ ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นมอื่น ร้อยละ 50 หากว่าเป็นการส่งเสริมให้องค์กรสหกรณ์เกิดความเข้มแข็ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถชี้แจงได้หรือไม่ว่าสหกรณ์ที่ได้สิทธิการจำหน่ายนมโรงเรียนมีความเข้มแข็งขึ้นอย่างไร 3. เหตุใดกระบวนการจัดทำประกาศคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการ ดำเนินงานโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ประจำปีการศึกษา 2567 จึงมีการออกประกาศ ณ วันที่ 30 เม.ย. 67 ซึ่งเป็นการประกาศที่กระชั้นกับการเปิดเรียนในวันที่ 16 พ.ค. 67 จนก่อให้เกิดปัญหานักเรียนไม่ได้รับนมในวันเ ปิดภาคเรียน เพื่อประโยชน์ของนักเรียนที่จะได้ดื่มนมในวันแรกที่เปิดภาคเรียน คณะกรรมการฯ สามารถเร่งรัดกระบวนการออกประกาศในแต่ละปีให้แล้วก่อนที่จะเปิดเรียนไม่น้อยกว่าหนึ่งเดือนได้หรือไม่
นายศักดินัย นุ่มหนู กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า คณะ กมธ.การเกษตรและสหกรณ์จะรับเรื่องดังกล่าวไปพิจารณาเพื่อจะสร้างพื้นที่และกระบวนการตรวจสอบให้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย โดยก่อนหน้านี้สหกรณ์โคนมได้มายื่นเรื่องร้องเรียนในชั้น กมธ. เนื่องจากได้รับการจัดสรรสัดส่วนนมโรงเรียนลดลง ซึ่งรัฐบาลได้มีการอนุมัติการปรับเพิ่มให้แล้ว แต่กลับส่งผลกระทบต่อภาคเอกชน และมาขอร้องให้สภาฯ ให้พื้นที่และขอความเป็นธรรม ซึ่ง กมธ.จะนำเรื่องนี้มาหารือกันโดยเร็ว และจะเชิญทุกท่าน รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือและให้ข้อมูลร่วมกัน เชื่อว่า กมธ.จะเป็นพื้นที่ที่จะแสวงหาข้อเท็จจริงและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย |
