วันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน 2567 เวลา 12.40 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายนิกร จำนง เลขานุการคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม พร้อมด้วย นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ โฆษกคณะ กมธ. รับหนังสือจาก นายพิชิต ไชยมงคล ตัวแทนเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) และคณะ เรื่อง คัดค้านการนิรโทษกรรมแบบเหมารวม
ตามที่คณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ได้ดำเนินการพิจารณาแนวทางการออกพระราชบัญญัตินิโทษกรรม และมีความพยายามนำเอาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 รวมเข้าด้วยนั้น โดยที่ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อยู่ในลักษณะหนึ่ง ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งรัฐแห่งราชอาณาจักร เนื่องจากต้องคุ้มครองทั้งความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร และเกียรติยศประมุขของรัฐ สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญในมาตรา 2 จึงมีความสำคัญ ต่อความมั่นคงของประเทศ เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) กองทัพธรรม และประชาชน จึงว่า เนื่องจากแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมที่พิจารณาอยู่ นั้น เกิดจากแนวคิด หรือยึดในความมุ่งหมายที่จะแก้ไขปัญหาความขัดแยังทางการเมืองของประชาชนในเหตุการณ์ทางการเมืองตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 ถึงปัจจุบัน เป็นการพยายามนิรโทษกรรมแบบเหมารวม จึงขอแสดงจุดยืน ดังนี้ 1. สนับสนุนให้มีการนิโทษกรรม ให้กับประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยมีเหตุจูงใจทางการเมืองทุกฝ่าย การเคลื่อนไหวทางการเมืองย่อมเป็นสิทธิ เสรีภาพ ในการแสดงออกทางการเมือง ที่มีความเห็นต่างทางการเมืองจึงเป็นแนวทางสร้างความปรองดองอย่างแท้จริง 2. ขอคัดค้านและไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งต่อแนวคิดหรือแนวทางการนำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มาบรรจุไว้ในร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม 3. ขอคัดค้านการนิรโทษกรรมที่จะเหมารวม ความผิดในกรณีทุจริตคอร์รัปชัน รวมไปในร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมครั้งนี้ด้วย 4. ขอคัดค้านการนิรโทษกรรมจากการกระทำผิดอาญาต่อบุคคลร้ายแรง ถึงแม้จะเกิดขึ้นในระหว่างชุมนุม เช่น การทำร้ายบุคคลอื่นให้ถึงแก่ความตาย
นายนิกร จำนง กล่าวภายหลังรับยื่นหนังสือว่า นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะ กมธ. มอบหมายให้ตนมารับหนังสือแทน ซึ่งคณะกมธ.ยินดีที่จะรับทุกเรื่องทุกความคิดเห็นไปประกอบการพิจารณา ซึ่งมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ดังนั้น คณะ กมธ.ชุดนี้ได้ศึกษาแนวทางนิรโทษกรรม ผู้มีปัญหาด้านการเมือง โดยหลักการอยู่ระหว่างดำเนินการ ส่วนรายละเอียดนำมาจากความพยายามในการสร้างความปรองดอง ซึ่งมีความหลากหลาย แต่ละคดีอาจจะมีความอ่อนไหว อย่างไรก็ตาม คณะกมธ.เมื่อพิจารณาแล้วเสร็จ จะนำเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรในช่วงเดือนกรกฎาคม 2567 หากสภาชุดนี้เห็นด้วย จะนำไปสู่การดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป |