วันอังคารที่ 4 มิถุนายน 2567 เวลา 09.30 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ประธานคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รับยื่นหนังสือจากนายประศม สุขแสวง ประธานเครือข่ายเมาแล้วขับ เพื่อยื่นข้อเสนอและข้อมูลความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนจากการเมาแล้วขับให้คณะ กมธ. ในฐานะเหยื่อเมาแล้วขับจึงได้รวมตัวกันจัดตั้งเป็นเครื่อข่ายเหยื่อเมาแล้วขับขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2544 และเป็นกลุ่มบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการผลักดันให้ประเทศไทยมีการออกกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอออล์ เมื่อปี พ.ศ.2551 อย่างไรก็ตาม กฎหมายดังกล่าวได้มีการบังคับใช้แล้วเป็นเวลา 16 ปี ซึ่งกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอออล์ย่อมมีทั้งผลดีและผลเสียต่อประชาชนทุกหมู่เหล่า จึงขอยื่นข้อเสนอ ดังนี้

1. ขอให้คณะกมธ.พิจารณาเพิ่มบทลงโทษกับสถานประกอบการ ร้านค้า บุคคลที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็ก เยาวชนที่อายุต่ำว่า 20 ปี จนนำไปสู่การเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนเมาแล้วขับ และพิสูจน์ได้โดยมีหลักฐานปรากฏชัด ขอให้มีการลงโทษสถานหนักทั้งทางแพ่ง ทางอาญา รวมไปถึงการเพิกถอนใบอนุญาตการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

2. ขอให้คณะกมธ.พิจารณาให้สถานประกอบการ ร้านค้า ที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต้องมีส่วนรับผิดชอบ กรณีปล่อยปละละเลยไม่ห้ามปรามให้ผู้มาใช้บริการเมาแล้วขับไปชนคนจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

3. ขอให้คณะกมธ.พิจารณาให้ผู้ประกอบการตั้งกองทุนเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการเมาแล้วขับ 

นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ กล่าวภายหลังรับยื่นหนังสือว่า กฎหมายดังกล่าวเป็นกฎหมายที่ร่วมกันระหว่างฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้านและหน่วยงานเอกชน ขอเป็นกำลังใจและขอยกย่องเครือข่ายที่เป็นผู้เสียสละผลักดันสะท้อนปัญหานี้ คณะ กมธ.จะรับข้อเสนอของเครือข่ายเข้าสู่การพิจารณา ทั้งนี้ คณะกมธ.ยินดีรับฟังข้อขัดข้องจากทุกฝ่าย  โดยจะรับฟังกลุ่มเครือข่ายเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นผู้ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม ขอให้มั่นใจว่ากมธ.จะทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถและให้เกิดความเป็นธรรมที่สุด โดยในวันที่ 12 มิ.ย. คณะกมธ.จะเข้าพบ รมว.สาธารณสุข เพื่อหารือและสะท้อนปัญหาดังกล่าวต่อไป