วันพฤหัสบดีที่ 16 พฤษภาคม 2567 เวลา 10.55 น. ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี ประธานคณะกมธ.การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แถลงข่าวความคืบหน้ากรณีเพลิงไหม้โรงงานเก็บกากสารเคมีของ บริษัท วิน โพรเสส จำกัด บ้านหนองพะวา ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 67 ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้อีกหนึ่งสัปดาห์จะครบหนึ่งเดือนแล้วแต่สถานการณ์ก็ยังไม่จบ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่จนครบถ้วนแล้วแต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าในการบริหารจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น โดยในวันพรุ่งนี้ (17 พ.ค. 67) คณะ กมธ. การที่ดินฯ จะลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์
โดยปัจจุบันบริเวณอาคาร 3 ของโรงงาน เกิดเปลวไฟจากฝนที่ตกลงมาใกล้กองอะลูมิเนียมดรอส ทำปฏิกริยากับน้ำฝนเกิดความร้อนเพิ่มขึ้นทำให้ลุกไหม้เชื้อเพลิงเศษวัสดุใกล้เคียง และยังไม่มีการดำเนินการจัดการกองอะลูมิเนียมดรอสอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ ชาวบ้านในพื้นที่ต้องอาศัยอยู่ท่ามกลางสารพิษโดยไม่ทราบว่าได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใด และยังไม่ทราบอาการที่จะมีผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว สำหรับการขนกากสารเคมีนั้น ทราบข้อมูลว่าจะมีการดำเนินการขนกากสารเคมี ในวันที่ 18 พ.ค.นี้ โดยนำเงินที่วางประกันที่ศาล จำนวน 4.6 ล้านบาท มาดำเนินการในเบื้องต้น ทั้งนี้ ขอฝากไปยังรัฐบาลให้ช่วยผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.การรายงานการปล่อยและการเคลื่อนย้ายสารมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม พ.ศ. .... ที่พรรคก้าวไกลยื่นต่อสภาฯ ไปแล้วแต่ยังไม่มีการบรรจุเข้าพิจารณาในที่ประชุมสภาฯ โดยร่างกฎหมายดังกล่าวจะทำให้สามารถตรวจสอบและเปิดเผยข้อมูลการจัดเก็บสารในโรงงานทั่วประเทศได้ เพื่อให้เกิดการควบคุมการปล่อยและการเคลื่อนย้ายสารพิษออกมาสู่สิ่งแวดล้อม ตลอดจนเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานอุตสาหกรรมเช่นนี้อีกในอนาคต
สำหรับเรื่องการชดเชยเยียวยา ทราบมาว่าผู้ว่าราชการจังหวัดระยองจะมอบเงินเยียวยาให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยจะใช้งบประมาณท้องถิ่นเยียวยา รายละ 3,000 บาท รวมทั้ง การขนย้ายกากสารเคมีออกจากพื้นที่จะต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิดด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ตั้งข้อสังเกตว่าเจ้าของโรงงานยังเข้าออกโรงงานอยู่เป็นปกติทั้งที่เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ ทำให้พี่น้องประชาชนมีความกังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ขึ้นอีกหรือไม่เพราะยังไม่ได้รับคำตอบจากภาครัฐว่าจะดำเนินการต่อเจ้าของโรงงานดังกล่าวอย่างไร จึงขอให้ทุกท่านร่วมกันจับตาการลงพื้นที่ในวันที่ 17 พ.ค. ของคณะ กมธ.การที่ดินฯ และการขนย้ายสารเคมีออกจากพื้นที่ในวันที่ 18 พ.ค. นี้
นายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี กล่าวเพิ่มเติมว่า วันพรุ่งนี้คณะ กมธ.การที่ดินฯ จะลงพื้นที่อีกครั้ง ซึ่งเป็นครั้งที่ 3 ที่ได้ลงพื้นที่ดังกล่าว เป็นการติดตามการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะประเด็น 3 เรื่องหลักที่ทางคณะ กมธ.ให้ความสนใจ คือ 1. ด้านการศึกษา เนื่องจากปัจจุบันชาวบ้านในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากสารพิษในอากาศทำให้โรงเรียนไม่สามารถเปิดการเรียนการสอนได้ จึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขเยียวยาเพื่อให้เด็กนักเรียนสามารถกลับมาเข้าสู่การเรียนการสอนในสภาพปกติได้ 2. ด้านสิ่งแวดล้อม ได้ประสานกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเข้ามาในพื้นที่เพื่อตรวจสอบว่าปัจจุบันมลพิษแพร่กระจายถึงระดับใด และมีบริเวณกว้างขนาดไหนเพื่อช่วยให้สามารถประเมินในอนาคตได้ว่า ต้องมีการใช้งบประมาณหรือค่าใช้จ่ายในการดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่ประมาณเท่าไร 3. ด้านสาธารณสุข ผลกระทบด้านสุขภาพของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ โดยมีคณะ กมธ.การสาธารณสุข ร่วมตรวจสอบว่า ปัจจุบันพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบทางด้านสาธารณสุขอย่างไรบ้างและมีแนวทางการดำเนินการแก้ไขอย่างไร
|