วันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.30 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.พรรคไทยก้าวหน้า แถลงข่าวกรณีผลการประชุมของคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยคณะ กมธ. มีมติเห็นชอบให้มีการนิรโทษกรรมการกระทำและการแสดงออกทั้งหลายที่มีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง โดยมีคำนิยามว่า มูลเหตุจูงใจทางการเมือง หมายถึง การกระทำใดบ้าง ซึ่งจะนิรโทษกรรมการกระทำตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน ที่อยู่ในข่ายมีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง และบางเรื่องที่อยู่ในข่ายความผิดไม่ร้ายแรงก็จะมีมติให้ขอนิรโทษกรรมได้เลย ส่วนคดีประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จะไม่ถูกนำมาพิจารณาใน พ.ร.บ.ดังกล่าว โดยจะจัดทำรายงานการพิจารณาให้แล้วเสร็จก่อนเปิดสมัยประชุมในเดือน ก.ค. 67 จึงข้อตั้งคำถามถึงคณะ กมธ.จำนวน 3 ข้อ ดังนี้ 1. ผู้ต้องหาในคดีประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จะถือว่าเป็นคดีทางการเมืองหรือไม่ 2. เหตุใดคดีประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จึงไม่สามารถนำมาพิจารณาใน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมได้ โดยใช้เพียงคำว่า อ่อนไหว เท่านั้น 3. การนิรโทษกรรมในครั้งนี้ จะไม่รวมผู้ต้องหาในคดีประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ใช่หรือไม่ จึงขอฝากข้อสังเกตไปยังคณะ กมธ.ว่า ขอให้มีการเปิดใจในการพิจารณานำเรื่องที่มีความขัดแย้งทางการเมืองอย่างรุนแรงเข้ามารวมในร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมด้วย เพื่อลดความขัดแย้งในสังคมลงไป
|