|
|
วันพฤหัสบดีที่ 7 ธันวาคม 2566 เวลา 13.00 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงข่าวเกี่ยวกับดิจิทัลวอลเล็ทว่า เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ที่ผ่านมา ได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อแจ้งข้อเท็จจริงให้เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา และกรรมการกฤษฎีกาได้ทราบ เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ในการให้ความเห็นทางกฎหมายในการตอบคำถามของกระทรวงการคลัง เรื่องการออก พ.ร.บ.การกู้เงินห้าแสนล้านบาท เพื่อทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ท โดยมีเนื้อหาว่า ตามปฏิทินการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ที่สำนักงบประมาณได้จัดทำขึ้นและครม.ชุดนี้ได้อนุมัตินั้น ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงของการที่สำนักงบประมาณรับฟังความคิดเห็นจนถึงวันที่ 12 ธ.ค. และกว่าจะไปจัดพิมพ์ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ และเสนอต่อครม.ให้ความเห็นชอบในร่างพ.ร.บ. งบประมาณ 2567 ว่าจะเสนอให้ครม.ให้ความเห็นชอบในร่าง พ.ร.บ งบประมาณในวันที่ 26 ธ.ค. 2566 โดยจะเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาในวาระแรกราววันที่ 3 หรือ 4 ม.ค. 67 เท่ากับว่ารัฐบาลยังมีเวลาในการนำการกู้เงินในการทำโครงการดังกล่าว ไปตั้งในร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ได้ทัน ดังนั้น การเสนอร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน ที่แยกต่างหากจากพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ปี 2567 จึงไม่เข้าเงื่อนไขสำคัญประการหนึ่ง ตามมาตรา 53 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง พ.ศ. 2561 การเรียนนำเสนอข้อเท็จจริงนี้ให้คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ทราบในข้อกฎหมายเท่านั้น ไม่ได้เสนอความเห็นต่อกฤษฎีกาว่ามีความจำเป็น เร่งด่วน และเศรษฐกิจไทยตกอยู่ในภาวะวิกฤติหรือไม่ เนื่องจากเห็นด้วยกับเลขาธิการฯ ว่าคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่มีหน้าที่จะออกความเห็นต่อรัฐบาลว่าขณะนี้เศรษฐกิจอยู่ในภาวะวิกฤติจึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะกู้เงินห้าแสนล้านบาทหรือไม่
สำหรับโครงการแก้หนี้นอกระบบของรัฐบาล ขอชื่นชมความตั้งใจของรัฐบาลในการที่จะเข้ามาแก้ปัญหาหนี้นอกระบบที่เป็นปัญหาเรื้อรังมานานและเข้าใจในวัตถุประสงค์ของการที่รัฐบาลจะให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและตำรวจมาเป็นตัวกลางในการเจรจาหนี้นอกระบบ แต่จากการรับฟังวิธีแก้ปัญหาของรัฐบาล จึงขอแสดงความคิดเห็นว่า การให้ลงทะเบียนลูกหนี้โดยเปิดเผยชื่อเจ้าหนี้นอกระบบ ในทางปฏิบัติจะไม่เกิดผลสำเร็จ เพราะหนี้นอกระบบที่มีการคิดดอกเบี้ยเกินอัตราตามที่กฎหมายกำหนด ถ้าเจ้าหนี้นอกระบบเปิดเผยตนเองออกมาเท่ากับยอมรับว่ากระทำความผิดตามกฎหมาย การลงทะเบียนจึงไม่ได้ผลเท่าใด
นอกจากนี้ เจ้าพนักงานปกครองและตำรวจเป็นลูกหนี้หรือเจ้าหนี้นอกระบบเสียเอง เกิดปัญหาการขัดกันของผลประโยชน์ในท้องที่ รัฐบาลจะทำเช่นใดและการลงทะเบียนของลูกหนี้นอกระบบ มีระยะเวลา 3 เดือน ส่งผลให้ลูกหนี้นอกระบบยังต้องแบกดอกเบี้ยไปอีกอย่างน้อยสามเดือน ยังไม่รวมขั้นตอนทางราชการที่ไม่รู้จะไกล่เกลี่ยหนี้เสร็จเมื่อใด
จึงขอเสนอต่อรัฐบาลว่าควรใช้กลไกสร้างคู่แข่งทางธุรกิจกับนายทุนหนี้นอกระบบโดยใช้กลไกธนาคารของรัฐหรือกองทุนกำหนดดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า โดยประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้รายย่อยง่ายขึ้น รัฐบาลเข้ามาเป็นตัวช่วยโดยการค้ำประกันหนี้รายใหม่บางรายการ และรัฐบาลต้องสร้างช่องทางในการหารายได้เพิ่มให้แก่ประชาชน
ทั้งนี้ ก่อนการแถลงโครงการสำคัญ ๆ ของรัฐบาล ขอเสนอให้รัฐบาลพิจารณาการคิดแนวทางการทำงานการปฏิบัติให้รอบด้านมากกว่านี้ ไม่ฉะนั้นนอกจากจะเป็นการแก้ปัญหาไม่ได้แล้วจะเป็นการซ้ำเติมปัญหาให้กับลูกหนี้นอกระบบ ด้วยเหตุนี้ ตนและทีมงานจะติดตามความคืบหน้าทั้งโครงการดิจิทัลวอลเล็ท การแก้หนี้นอกระบบของรัฐบาล โดยจะนำเสนอรายงานและแถลงกับสื่อมวลชนทุก 2 สัปดาห์ต่อไป
|
|
|
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
ถนนประดิพัทธ์ แขวงพญาไท
เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400
โทร : 0 2244 2500
e-Mail : webmaster@parliament.go.th
|
จำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ในหน้า |
ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2562
|
|
|
|
|
|
|