|
|
วันพุธที่ 22 พฤศจิกายน 2566 เวลา 11.50 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ประธานสคณะ กมธ. การป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด และคณะ แถลงข่าวความคืบหน้าการทำงานของกมธ. เกี่ยวกับการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินในคดีบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยคณะ กมธ. ได้รับเรื่องจากผู้เสียหายและได้ดำเนินการอย่างเร่งด่วนในการติดตามรูปคดีและพยายามที่จะนำเงินที่ผู้เสียหายสูญเสียไปกลับคืนมาให้ได้เร็วที่สุด โดยได้มีการตั้งคณะอนุกรรมาธิการติดตามและศึกษาคดีฉ้อโกง
บริษัท สตาร์คฯ มีนายดนุพร ปุณณกันต์ รองประธาน กมธ. เป็นประธานคณะอนุ กมธ. พร้อมอนุ กมธ. หลายท่านเพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินการดังกล่าว ซึ่ง คณะ กมธ. ได้รับทราบข้อมูลการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินรายคดีของนาย ชนินทร์ เย็นสุดใจ กับพวก จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) จึงขอแจ้งให้สื่อมวลชน และประชาชนผู้ได้รับความเสียหายได้รับทราบ ว่า สำนักงาน ปปง. ได้ดำเนินการร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ตรวจสอบทรัพย์สินนายชนินทร์ เย็นสุดใจ กับพวก และมีการดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์สินแล้ว ประมาณ 300 กว่าล้านบาท ประกอบด้วยเงินสดเงินในบัญชี เงินฝากธนาคาร เงินลงทุน และหลักทรัพย์ เป็นต้น และทรัพย์สินที่สำนักงาน กลต. ดำเนินการอายัดไว้ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบของคณะพนักงานเจ้าหน้าที่อีกจำนวนหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามทรัพย์สินจำนวนนี้มีกลุ่มบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องหลายราย จึงต้องพิจารณาและตรวจสอบอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้กระทบสิทธิบุคคลภายนอกผู้สุจริตและให้ความเป็นธรรมกับบุคคลที่เกี่ยวข้องดังกล่าวด้วย ส่วนกรณีเส้นทางการเงินหรือธุรกรรมที่พบในประเทศ สำนักงาน ปปง.จะดำเนินการอายัดทรัพย์สินจำพวกนี้ก่อน สำหรับกรณีเส้นทางการเงินหรือธุรกรรมที่พบในต่างประเทศจะมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินให้มีความชัดเจนอีกครั้ง กมธ. มีประเด็นที่มีความเป็นห่วงและอยากเห็นการติดตามเพิ่มเติมโดยเฉพาะในส่วนของอดีต CEO บริษัท สตาร์คฯ ซึ่งตรงนี้ยังไม่เห็นว่าในบัญชีหรือรายการยึดอายัดทรัพย์สิน กมธ. ได้ตั้งข้อสังเกตกับเรื่องนี้และให้ข้อสังเกตกับทาง ปปง. ไปแล้วเพื่อให้ติดตามต่อไปส่วนความคืบหน้าของการทำงานในส่วนของคณะอนุกรรมาธิการฯ ที่จะต้องเดินต่อและติดตามการดำเนินคดีรวมถึงการติดตามเร่งรัดนำทรัพย์สินผู้เสียหายกลับคืนมาให้ได้ตอนนี้มีความคืบหน้าไปอย่างมาก และ กมธ. จะติดตามเรื่องนี้จนกว่าคดีจะสิ้นสุด เพื่อติดตามความเป็นธรรมให้กับพี่น้องประชาชน และไม่อยากให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต
ด้าน นายดนุพร ปุณณกันต์ ประธานอนุ กมธ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าจากที่ ปปง. แถลงข่าวไปว่ามีการยึดทรัพย์บุคคลคือนายชนินทร์ เย็นสุดใจ กับพวก แต่เงินจำนวนนี้ยังไม่เพียงพอในการชดใช้ค่าเสียหายกับผู้ที่ถูกหลอกให้ไปซื้อหุ้นกู้ซึ่งมูลค่า 9,000 กว่าล้านบาท ตอนนี้ทาง ปปง. เองทำงานร่วมกับ กลต. และดีเอสไออย่างใกล้ชิด ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการทำงานต่อไปอย่างมีนัยสำคัญ และทางอนุ กมธ. เองได้ประชุมทุกสัปดาห์เพื่อที่จะตามเงินเหล่านี้กลับมาคืนให้กับพี่น้องประชาชนที่ถูกหลอก ถูกโกง และขอเรียนว่าข้อมูลบางข้อมูลไม่สามารถลงรายละเอียดได้เพราะเป็นเรื่องของคดี เงินจำนวน 300 กว่าล้านบาท ที่ถูกอายัด ยังไม่เพียงพอต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น อนุ กมธ. ได้สอบถามไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และ ปปง. ทราบว่าตอนนี้มีการประชุมและส่งมอบทรัพย์สินต่าง ๆ ที่ กลต. ได้ยึดอายัดทรัพย์สินไว้หลายพันล้าน และทรัพย์สินนั้นอยู่ในการตรวจสอบของปปง. เป็นทั้งบัญชีเงินฝาก ที่ดิน รถยนต์ คอนโด มูลค่าหลายพันล้าน ตอนนี้อยู่ในกระบวนการเรียบร้อยแล้วขอให้สื่อมวลชนฝากไปยังผู้เสียหายว่าตอนนี้ทรัพย์สินทั้งหมดถูกอายัดในเบื้องต้นไว้แล้วเงินที่ท่านถูกโกงไปกำลังถูกตามกลับคืนมาชดใช้ให้ท่าน ประชาชนผู้ได้รับความเสียหายจากคดีของบริษัทสตาร์คฯ ให้เตรียมพร้อมที่จะยื่นคำร้องพร้อมทั้งหลักฐานแสดงรายละเอียดและความเสียหายต่อสำนักงาน ปปง. ภายใน 90 วันนับตั้งแต่วันที่สำนักงาน ปปง. ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้มีการยื่นคำร้อง
|
|
|
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
ถนนประดิพัทธ์ แขวงพญาไท
เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400
โทร : 0 2244 2500
e-Mail : webmaster@parliament.go.th
|
จำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ในหน้า |
ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2562
|
|
|
|
|
|
|