|
|
วันพฤหัสบดีที่ 26 ตุลาคม 2566 เวลา 11.00 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายจักรัตน์ พั้วช่วย ประธานคณะ กมธ. การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และคณะกมธ. แถลงข่าวฝากสื่อมวลชนไปยังพี่น้องประชาชน หากมีปัญหาเกี่ยวกับน้ำ สามารถแจ้งมายังกมธ. ได้ ซึ่งคณะกมธ. ชุดนี้ เดิมคือคณะ กมธ. แก้ไขราคาผลิตผลเกษตรกรรม แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีการแก้ไขระเบียบฯ เปลี่ยนภารกิจจากเดิมมาเป็นภารกิจใหม่ และเปลี่ยนชื่อเป็น คณะ กมธ. การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ซึ่งเป็นคณะ กมธ. สามัญ คณะเดียวที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ วันนี้จึงอยากใช้โอกาสนี้ชี้แจ้งไปยังสื่อมวลชนว่า คณะ กมธ. ต้องการสื่อสารให้ประชาชนทราบว่าหากมีปัญหาเรื่องเกี่ยวกับน้ำ ไม่ว่าจะเป็นน้ำอุปโภคบริโภค น้ำเพื่อการเกษตร น้ำท่วม น้ำแล้ง สามารถแจ้งมายัง คณะ กมธ. ได้ เพื่อนำปัญหาเข้าสู่ การแก้ไขในชั้น กมธ. คณะ กมธ. มีความเป็นห่วงพี่น้องเกษตรกร เนื่องจากก่อนหน้านี้กังวลว่าเกษตรกรจะไม่มีน้ำใช้ แต่ 2 - 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา อาจจะเป็นความโชคดีที่มีพายุหลายลูกเข้ามาในประเทศหลายลูก ทำให้อ่างเก็บน้ำ ที่เป็นห่วงว่าจะไม่มีน้ำ มีความจุน้ำเกินปริมาณที่จะใช้ในการอุปโภคบริโภคแล้ว จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งปล่อยน้ำให้เกษตรกรได้ทำการเกษตรกรรมต่อไป ฝากพี่น้องสื่อมวลชนเป็นช่องทางการสื่อสารไปยังพี่น้องประชาชนว่า แม้เป็นคณะ กมธ. แต่ภารกิจค่อนข้างหนัก และเชื่อว่าหากทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะสามารถแก้ไขและบรรเทาปัญหาการบริหารจัดการน้ำได้ในอนาคต
นายนพพล เหลืองทองนารา รองประธานคณะ กมธ. คนที่หนึ่ง กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมของคณะ กมธ. ครั้งแรก ประเด็นที่แสดงความเป็นห่วงเป็นใยต่อพี่น้องเกษตรกรทั้งประเทศคือ ตอนนี้ใกล้ถึงฤดูทำนาปรัง ของพี่น้องเกษตรกร ขณะนี้กรมชลประทานประกาศเตือนขอให้ชาวนางดเพาะปลูกข้าว ซึ่งขณะนั้นที่กรมชลประทานประกาศเพราะว่า ต้นทุนน้ำที่มีอยู่ใน 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา คือ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีน้อย โดยมีหลักเกณฑ์ว่า จะต้องมีน้ำ 5,800 ล้านลูกบาศก์เมตรจึงจะพิจารณาปล่อยน้ำให้เกษตร แต่ว่า ณ เวลานี้มีน้ำอยู่ใน 4 เขื่อนที่ใช้ได้ 10,590 ล้านลูกบาศก์เมตรคิดเป็นร้อยละ 58 เพราะฉะนั้น ทางคณะ กมธ. จึงขอเรียกร้องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ให้ช่วยพิจารณาปล่อยน้ำให้กับชาวนาในเขตชลประทาน เพราะว่าตอนนี้ราคาข้าวอยู่ในเกณฑ์ที่ชาวนาพอใจและต้องการที่จะทำนาต่อ จึงขอให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องพิจารณาช่วยเหลือเกษตรกรในการเพาะปลูกข้าวนาปรังในรอบนี้ด้วย
นายกฤษฐ์หิรัญ เลิศอุฤทธิ์ โฆษกคณะ กมธ. กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะ กมธ. นี้เป็นคณะใหม่ แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการจัดการน้ำทั้งระบบ และสิ่งที่จำเป็นคือต้องได้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของการบริหารจัดการน้ำที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน และการประชุมครั้งหน้าจะมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานทรัพยากรน้ำ กรมชลประทาน มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารจัดการลุ่มน้ำ และในสัปดาห์ถัดไปจะมีพิจารณาญัตติที่รับจากสภาผู้แทนราษฎรมา คือ ปัญหาเรื่องน้ำประปาไม่เพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคมาพิจารณา ในชั้น กมธ. เพื่อหาทางออกร่วมกัน |
|
|
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
ถนนประดิพัทธ์ แขวงพญาไท
เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400
โทร : 0 2244 2500
e-Mail : webmaster@parliament.go.th
|
จำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ในหน้า |
ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2562
|
|
|
|
|
|
|