 |
|
|
 |
|
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร  |
นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร รับยื่นหนังสือจาก ผศ.นพ.วิชช์ เกษมทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) เพื่อขอให้ทบทวนการแต่งตั้งคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษากฎหมายและมาตรการควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย ๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 4 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2566 |
|
|
|
|
วันพุธที่ 4 ตุลาคม 2566 เวลา 10.20 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร มอบหมายให้นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร รับยื่นหนังสือจาก ผศ.นพ.วิชช์ เกษมทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) พร้อมด้วย เครือข่ายนักวิชาการ เครือข่ายผู้ปกครอง เครือข่ายครอบครัว ตัวแทนเด็ก และเยาวชน เพื่อขอให้ทบทวนการแต่งตั้งคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษากฎหมายและมาตรการควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 66 ที่ผ่านมา เนื่องจากการแต่งตั้งคณะ กมธ. มีความไม่ปกติ พบรายชื่อบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจบุหรี่อย่างน้อย 2 คน โดยบุคคลทั้งสองมีการเคลื่อนไหวผลักดันให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมายอย่างต่อเนื่องในนามกลุ่มลาขาดควันยาสูบ ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับธุรกิจบุหรี่ยักษ์ใหญ่ โดยเป็นสมาชิกองค์กรสนับสนุนนิโคตินนานาชาติ ที่มีประวัติรับเงินสนับสนุนจากองค์กรของธุรกิจยาสูบ และหนึ่งในแกนนำกลุ่มลาขาดควันยาสูบเคยเป็นกรรมการบริหารองค์กรสนับสนุนนิโคตินนานาชาตินี้ และยังดำเนินกิจกรรมในนามองค์กรนี้อย่างต่อเนื่อง การแต่งตั้งบุคคลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจยาสูบ เข้าร่วมกำหนดนโยบายสาธารณะเกี่ยวกับการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบถือเป็นการขัดต่อกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมการบริโภคยาสูบขององค์การอนามัยโลกมาตรา 5.3 ที่ไทยเป็นรัฐภาคี และเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของไทยด้านการควบคุมยาสูบในสายตานานาประเทศ ที่ไทยได้รับการยกย่องว่ามีความก้าวหน้าในระดับนานาชาติ นอกจากนี้ ข้อเสนอแนะที่จะออกโดยคณะ กมธ. ชุดนี้ จะขาดความน่าเชื่อถือ สร้างความเคลือบแคลงสงสัยจากสังคมว่ามีการแทรกแซงโดยธุรกิจยาสูบอีกด้วย นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นเรื่องที่สำคัญ เนื่องจากสามารถส่งผลให้เด็กสูญเสียปัญญา จนอาจนำไปสู่การก่อสถานการณ์ที่เป็นอันตรายต่อสังคมได้ โดยเชื่อว่า สส.ทั้งหมด คำนึงผลประโยชน์ประชาชนมากกว่านายทุน และยึดหลักความถูกต้อง อย่างไรก็ตาม จะนำเรื่องดังกล่าวกราบเรียนประธานสภาผู้แทนราษฎรต่อไป |
 |
 |
 |
 |
|