วันพุธที่ 6 กันยายน 2566 เวลา 13.00 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายกรุณพล เทียนสุวรรณ และนายสรวีย์ ศุภปณิตา สส. พรรคก้าวไกล รับยื่นหนังสือจาก นายนิติ รัตนภัณฑ์พาณิชย์ ตัวแทนผู้นำกลุ่มประชาชนและชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากระบบโครงข่ายไฟฟ้า เรื่อง ขอให้ยกเลิกโครงการก่อสร้างระบบโครงข่ายไฟฟ้า 500 กิโลโวลต์ สามโคกจุดเชื่อมต่อระบบโครงข่ายไฟฟ้า 500 กิโลโวลต์ ไทรน้อย - แจ้งวัฒนะ และระบบไครงข่ายไฟฟ้า 500 กิโลโวลต์ ตัดตอนระบบโครงข่ายไฟฟ้า 500 กิโลโวลต์ ไทรน้อย แจ้งวัฒนะ ลงที่สถานีไฟฟ้าย่อยสามโคก
ตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้มีแผนการดำเนินงานโครงการก่อสร้างและวางระบบสายส่งไฟฟ้าเกี่ยวกับการกำหนดเขตระบบโครงข่ายไฟฟ้า 500 กิโลโวลต์ เส้นทางสามโคก จุดเชื่อมต่อระบบโครงข่ายไฟฟ้า 500 กิโลโวลต์ ไทรน้อย - แจ้งวัฒนะ และเส้นทางระบบโครงข่ายไฟฟ้า 500 กิโลโวลต์ เส้นตัดตอนระบบโครงข่ายไฟฟ้า 500 กิโลโวลต์ ไทรน้อย - แจ้งวัฒนะ การไฟฟ้าฯ ได้มีหนังสือแจ้งการประกาศกำหนดแนวเขตระบบโครงข่ายไฟฟ้า พร้อมทั้งได้เริ่มดำเนินการเข้าทำการสำรวจทรัพย์สินที่ดินของเจ้าของกรรมสิทธิ์ ทั้งนี้ในการวางจุดแนวเชื่อมต่อและวางระบบโครงข่ายไฟฟ้าของการไฟฟ้าฯ นั้น ทางการไฟฟ้าฯ ไม่ได้ดำเนินการแจ้งประสานงานมายังประชาชนหรือชุมชนผู้ได้รับผลกระทบมาก่อน อีกทั้ง ปัจจุบันการไฟฟ้าฯ ก็ยังคงดำเนินการเข้าทำการสำรวจที่ดินของประชาชนผู้ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง โดยมิได้มีการแจ้งหรือประสานงานกับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบหรือทำการสอบถามปัญหาและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในบริเวณที่จะดำเนินโครงการ ซึ่งการกระทำของการไฟฟ้าฯ ในครั้งนี้ทำให้ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการดำเนินการดังกล่าวหลายประเด็น อาทิ 1. การรวบรัดขั้นตอนในการจัดทำโครงการ 2. การปกปิดเรื่องการสำรวจเส้นทางและแนวเขต 3. มีการย้ายตำแหน่ง เสาไฟฟ้า คดเคี้ยว ปรับเปลี่ยนผังหลายครั้ง 4. การออกแบบผิดหลักวิศวกรรมและความเป็นจริง 5. ไม่แจ้งและไม่ทำประชาพิจารณ์ สอบถามประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบ 6 .ไม่มีการสำรวจและศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้นกับชุมชนและจังหวัดปทุมธานี 7. ไม่โปร่งใสและมีการดำเนินการเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มธุรกิจและนายทุนบางกลุ่ม
ซึ่งหากปล่อยให้การไฟฟ้าฯ ดำเนินการก่อสร้างวางแนวเขตโครงข่ายไฟฟ้าดังกล่าว โดยขาดการศึกษาและการสอบถามถึงปัญหาและการมีส่วนร่วมของประชาชนที่ได้รับผลกระทบนั้น ก็อาจทำให้เกิดความเสียหายครอบคลุมและส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ประกอบอาชีพและพักอาศัยอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินเป็นจำนวนมาก ไม่สามารถประเมินค่าความเสียหายที่ทำให้ประชาชนไม่สามารถใช้ประโยชน์ในที่ดินและถูกลิดรอนสิทธิทำกินเพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัวบนที่ดินของตนเอง ประกอบกับที่ดินที่การไฟฟ้าฯ จะดำเนินการก่อสร้างและวางระบบโครงข่ายสายไฟฟ้าผ่านที่ดินที่มีพื้นที่ศักยภาพสูงในการพัฒนาและสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นกับชุมชนและในจังหวัดปทุมธานี ซึ่งปล่อยให้ดำเนินโครงการดังกล่าวต่อไปจะส่งผลกระทบและความเสียหายอย่างกว้างขวางต่อประชาชนและชุมชนในบริเวณที่โครงการดำเนินการวางสายและระบบไฟฟ้าพาดผ่านและยังก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจต่อจังหวัดปทุมธานี
|