 |
|
|
 |
|
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร  |
คณะผู้แทนรัฐสภาไทย ระบุที่ประชุมด้านเศรษฐกิจ AIPA ครั้งนี้ เห็นพ้องต้องกันในการเปลี่ยนถ่ายการใช้พลังงานสะอาด หรือเศรษฐกิจที่เกิดจากการใช้พลังงานสะอาดต่าง ๆ เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 9 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2566 |
|
|
|
|
|
|
|
การประชุมคณะ กมธ.ด้านเศรษฐกิจ ในการประชุมใหญ่สมัชชารัฐสภาอาเซียน ครั้งที่ 44 ณ กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ถือเป็นอีกหนึ่งเวทีที่สำคัญ โดย นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร คณะผู้แทนรัฐสภาไทย กล่าวสรุปภายหลังการเข้าร่วมประชุมถึง 5 ข้อมติสำคัญ ประกอบด้วย เรื่องเศรษฐกิจที่เกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน อาทิ เรื่องโลกร้อน โดยในปีนี้ที่ประชุมได้เน้นย้ำในเรื่องการเปลี่ยนถ่ายการใช้พลังงานสะอาด หรือเศรษฐกิจที่เกิดจากการใช้พลังงานสะอาดต่าง ๆ โดยทุกประเทศได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และอีกหนึ่งประเด็นใหม่ที่สำคัญ คือเรื่องการปราบปรามคอร์รัปชัน ที่เสนอโดยประเทศมาเลเซีย โดยทุกประเทศยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ ซึ่งถือเป็นอาชญากรรมข้ามแดน เป็นการทำร้ายเศรษฐกิจอย่างมาก ซึ่งแก๊งเหล่านี้หากทางอาเซียนไม่จัดการ สุดท้ายจะไม่มีใครเชื่อถือในระบบเศรษฐกิจ ทั้งนี้ จะนำข้อสรุปดังกล่าวกลับไปหารือที่รัฐสภาไทยอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังได้มีการพูดถึงการทำงานร่วมกันระหว่างสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกับสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งทุกพรรคก็จะมารวมตัวกัน เพื่อนำข้อมติต่าง ๆ กลับไปเปลี่ยนแปลงเป็นร่างกฎหมายเสนอต่อสภาอีกครั้ง เพื่อไม่ให้การประชุมเสียเปล่า สำหรับสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจกับร่างข้อตกลงดังกล่าวนี้สะท้อนอะไรบ้างนั้น นายเท่าพิภพ กล่าวว่า บางร่างเหมือนประเทศไทยได้มีการพัฒนาไปมากกว่าบางประเทศในอาเซียน แต่หากประเทศที่มีเศรษฐกิจที่ดีกว่า อาทิ สิงคโปร์ ได้มีการทำเกินมาตรฐานดังกล่าวนี้แล้ว รวมถึงได้ข้อคิดจากสมาชิกประเทศมาเลเซียว่า เราต้องทำตามมาตรฐานยุโรปเพื่อให้ภูมิภาคมีความเข้มแข็ง เพื่อพร้อมที่จะค้าขายกับประเทศในยุโรปได้ ซึ่งตนมองว่าเป็นทิศทางที่ดีของอาเซียนที่พยายามจะทำให้ได้มาตรฐาน เพื่อที่จะเหมือนภูมิภาคอื่นในยุโรป รวมไปถึงประชาชนจะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นทั้งนี้ ในเวทีสภา มีคนรุ่นใหม่เข้ามาในวงการการเมืองมากขึ้นนั้น มีบทบาทสำคัญอย่างไรนายเท่าพิภพ กล่าวว่า สภาไทยได้มีสัดส่วน สส.ที่มีอายุต่ำกว่า 45 ปี โดยใน AIPA ครั้งนี้ เป็นคนรุ่นใหม่ถึงร้อยละ 40 ถือว่าเป็นจำนวนมาก ซึ่งทุกวันนี้ประชาชนยังพูดว่า สส. สมัยนี้มีแต่เด็กวัยรุ่น โดยตนมองว่าเป็นข้อดี ซึ่งในประเทศอินโดนีเซีย สิงคโปร์ ก็มี สส.รุ่นใหม่ที่อายุน้อยเช่นกัน อีกทั้งการมีอายุเท่ากันก็จะสามารถคุยกันรู้เรื่อง รวมถึงทำให้ทราบว่าคนรุ่นใหม่ต้องการสิ่งใดบ้าง เครดิต : ข่าวโดยทีมโฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎรและทีมข่าวโทรทัศน์รัฐสภา |
 |
 |
 |
 |
|