คณะอนุกรรมการ กิจกรรมภายในองค์กร โฆษกสาร ติดต่อเรา ติดต่อเรา หน้าหลัก
 
« มีนาคม 2568 »
อา. จ. อ. พ. พฤ. ศ. ส.
       1
2 3 4 5 6 7 8
9 10 11 12 13 14 15
16 17 18 19 20 21 22
23 24 25 26 27 28 29
30 31
ดูปฏิทินทั้งหมด
หน้าหลัก ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวที่น่าสนใจ บทความ รัฐสภา สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ตารางกิจกรรม
-->
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาปฏิรูปแห่งชาติ
ประธานอนุกรรรมาธิการปฏิรูปการเกษตรและคณะ พร้อมด้วยรมต.ช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกันแถลงข่าวถึงผลการดำเนินงานและทิศทางเกษตรของประเทศไทย

๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 19 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2558

วันพฤหัสบดีที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๓.๐๐ นาฬิกา ณ บริเวณห้องโถง อาคารรัฐสภา ๑ นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ ประธานอนุกรรมาธิการปฏิรูปการเกษตร และคณะ แถลงข่าวเปิดเผยว่าคณะอนุกรรมาธิการปฏิรูปการเกษตรได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้ศึกษาภาพรวม และทิศทางการปฏิรูปภาคเกษตร เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน และภาระหนี้สินของภาคเกษตรกรรม ตลอดจนการสร้างรายได้ที่ดีขึ้นให้กับเกษตรกรไทยนั้น จึงได้มีการตั้งคณะทำงานปฏิรูปด้านเกษตรทั้ง ๑๑ คณะจัดประชุมระดมความคิดเห็นและลงพื้นที่เพื่อศึกษาเก็บข้อมูลจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องนำสู่การปฏิรูปด้านการเกษตร ซึ่งพบว่าการใช้เมล็ดพันธุ์ไม่ได้คุณภาพเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่ง ทำให้ผลผลิตเฉลี่ยสินค้าเกษตรของไทยเกือบทุกชนิดต่ำกว่า และมีต้นทุนการผลิตสูงกว่าประเทศอาเซียน โดยในเบื้องต้น เพื่อสนับสนุนการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของสินค้าเกษตรไทย คณะอนุกรรมาธิการฯ จึงได้ร่วมกับสมาคมการค้าเมล็ดพันธุ์ไทยมอบเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และข้าวโพดฝักอ่อนคุณภาพ ให้กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อนำไปส่งเสริมให้กับเกษตรกรในพื้นที่ขยายผลของโครงการปิดทองพลังพระฯ จ. น่าน และเกษตรกรในพื้นที่ภาคกลาง ๔ จังหวัดได้แก่ จ. สุพรรณบุรี จ. ราชบุรี จ. นครปฐม และจ.กาญจนบุรี พร้อมทั้งจัดอบรมความรู้เรื่องการปลูกข้าวโพดอย่างมีประสิทธิภาพให้กับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการด้วย ทั้งยังเตรียมเสนอรัฐบาลเร่งพัฒนาระบบชลประทานทั่วประเทศให้ครอบคลุมและเข้าถึงพื้นที่การเกษตร ในลักษณะเดียวกับแผนพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง เพราะน้ำถือเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญของการผลิต นอกจากนี้ นายอุทัยกล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุดเมื่อเร็ว ๆ นี้คณะอนุกรรมาธิการปฏิรูปการเกษตรได้มีการประชุม นโยบายของรัฐบาลในการทวงคืนผืนป่า โดยได้เชิญตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, กระทรวงมหาดไทย, กองทัพบก, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ การยางแห่งประเทศไทย และเกษตรกรชาวสวนยาง ซึ่งเกี่ยวข้องกับ การโค่นไม้ยางพาราในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และป่าสงวน โดยที่ประชุมได้มีมติเห็นพ้องร่วมกันในเรื่องการบุกรุกป่า ซึ่งพบว่าจากการร้องเรียนของเกษตรกรว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปยึดพื้นที่เกษตรกรที่ทำสวนยาง ซึ่งเป็นการมองต่างมุมจากประกาศของนายกรัฐมนตรี หากพิจารณารายละเอียดแล้วจะมีข้อความระบุว่าไม่ให้กระทบ สร้างความเดือดร้อนคนยากจน และให้อำนาจกระทรวงมหาดไทยโดยมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเป็นผู้พิจารณาสามารถผ่อนปรนได้ตามความเหมาะสม โดยยึดมวลชนเป็นหลัก
download download Download all images download
เข้าสู่หน้าหลักเว็บไซต์โฆษกสาร