|
|||||||||
|
|||||||||
วันอังคารที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๘ เวลา ๑๔.๐๐ นาฬิกา ณ บริเวณห้องโถง อาคารรัฐสภา ๑ นางพรพันธุ์ บุณยรัตพันธุ์ ประธานกรรมาธิการปฎิรูประบบสาธารณสุข รับยื่นหนังสือจาก รองศาสตราจารย์ (พิเศษ) เภสัชกร กิตติ พิทักษ์นิตินันท์ นายกสภาเภสัชกรรม เภสัชกรและมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เรื่องข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการพัฒนาศักยภาพของเภสัชกรด้านเภสัชกรรมสมุนไพรเพื่อความมั่นคงของระบบยาแห่งชาติ เนื่องจากในปัจจุบันรัฐได้มีนโยบายการส่งเสริมการแพทย์คู่ขนานระหว่างแผนปัจจุบันควบคู่ไปกับแผนดั้งเดิม สนับสนุนการใช้ยาสมุนไพรไทยเพื่อทดแทนยาแผนปัจจุบัน เพื่อลดดุลการค้าจากการนำเข้ายาจากต่างประเทศ นำไปสู่ความมั่นคงของระบบยาแห่งชาติที่พึ่งพาตนเองได้มากขึ้น ตลอดจนนโยบายส่งเสริมการผลิตสมุนไพรเพื่อส่งออก ซึ่งจะช่วยให้เกิดรายได้เข้าสู่ประเทศจากความได้เปรียบทางแหล่งทรัพยากรและเทคโนโลยีในการผลิตของประเทศ แต่กระบวนการผลิตและพัฒนาสมุนไพร ตลอดจนการแนะนำการใช้นี้ ต้องอาศัยความรู้และเทคโนโลยีเป็นวิทยาศาสตร์ มีมาตรฐานในระดับที่สากลยอมรับเพื่อความน่าเชื่อถือ และเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ เภสัชกรเป็นผู้มีบทบาทสำคัญยิ่งต่อความสำเร็จในการพัฒนาการเป็นผู้นำด้านสมุนไพรของประเทศ และเป็นวิชาชีพที่เชื่อมโยงการแพทย์แผนปัจจุบันและแผนดั้งเดิมเข้าด้วยกันได้อย่างสอดคล้อง ดังนั้นจึงควรใช้กลยุทธ์ ๕ ด้าน ในการเร่งพัฒนาเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จด้านสมุนไพรของประเทศ ได้แก่ ด้านการบริหารจัดการนโยบายสมุนไพรแห่งชาติ ด้านอุตสาหกรรมยาและผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร ด้านการพัฒนาองค์ความรู้เกี่ยวกับยาและผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร ด้านการบริบาลทางเภสัชกรรมเพื่อดูแลความปลอดภัยในการใช้ยาและผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร และด้านการบริหารจัดการการศึกษาและการพัฒนากำลังคน ทั้งนี้ประธานกรรมาธิการฯ ได้กล่าวว่าจะนำเรื่องดังกล่าวไปเป็นข้อมูลในระบบปฏิรูปเพื่อให้การแพทย์แผนไทยคู่ขนานไปกับการแพทย์แผนปัจจุบันต่อไป |
![]() |
||
![]() |
![]() |
|
![]() |