|
|||||||||
|
|||||||||
วันพฤหัสบดีที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ เวลา ๑๒.๒๐ นาฬิกา ณ บริเวณห้องโถง ชั้นล่าง อาคารรัฐสภา ๑ นายบุญเลิศ คชายุทธเดช รองประธานกรรมการศึกษาแนวทางสร้างความปรองดอง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (คศป.) ได้แถลงถึงผลจากการเข้าพบนายวิทยา สุริยะวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เพื่อขอคำปรึกษาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องแนวทางในการใช้กระบวนการยุติธรรมเพื่อสร้างความปรองดอง เนื่องด้วยทางคศป. กำลังจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายและกฎหมายว่าด้วยแนวทางในการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ให้ควบคู่กับการปฏิรูปด้วยกระบวนการยุติธรรมเกี่ยวกับผลกระทบจากการชุมนุมที่มีสาเหตุจากความขัดแย้งทางการเมืองในรอบ ๑๐ ปีที่ผ่านมา คือกลุ่มผู้ต้องขังที่มีคดีเกี่ยวข้องกับการชุมนุม ซึ่งทาง คศป. เล็งเห็นว่าควรมีการวางหลักเกณฑ์ กำหนดขอบเขตในการแยกแยะและปฏิบัติต่อคดีที่เป็นอาชญากรรมในเนื้อที่ กับคดีที่เกิดจากเหตุจูงใจทางการเมือง ซึ่งจะทำให้เห็นว่าในแต่ละกรณีควรมีวิธีการและทางเลือกในการอำนวยความยุติธรรมอย่างไรได้บ้างที่สอดคล้องกับหลักนิติธรรม ซึ่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้ให้ข้อคิดว่าการชุมนุมทางการเมืองในประเทศไทยที่ผ่านมามีความซับซ้อน มีผู้เข้าร่วมหลากหลายกลุ่มที่ใช้วิธีการต่าง ๆ เพื่อเรียกร้องความต้องการทางการเมือง ด้วยวิธีการต่าง ๆ แม้การกระทำนั้นเป็นการละเมิดกฎหมายแต่ในสารระบบของกระบวนการยุติธรรมไทยไม่มีคำนิยามของ "คดีทางการเมือง" ดังนั้น คดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมที่มีการละเมิดกฎหมายไม่ว่าจะเป็นในส่วนที่มีการใช้อาวุธหรือไม่ จึงเข้าไปอยู่ในสารระบบของคดีอาญา ผู้ที่เข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองเพื่อเรียกร้องความต้องการทางการเมืองในเชิงอุดมการณ์ไม่ได้เป็นอาชญากร ดังนั้นจึงต้องมีการพิจารณาที่มูลเหตุและเจตนาของการกระทำ ว่ามีความประสงค์ร้ายหรือไม่ มาร่วมชุมนุมเพื่ออะไร แล้วได้รับผลอย่างไร แต่ถ้ามีการพิจารณาผ่อนผันทางคดีสิ่งที่ต้องตอบสังคมให้ได้คือจะทำให้เกิดประโยชน์กับส่วนร่วมได้อย่างไร และจะมีหลักประกันว่าไม่มีการไปกระทำผิดซ้ำอีกหรือไม่ |
![]() |
||
![]() |
![]() |
|
![]() |