วันอังคารที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๔.๒๐ นาฬิกา ณ บริเวณห้องโถง อาคารรัฐสภา ๑ พลเอก ประสูตร รัศมีแพทย์ ที่ปรึกษากรรมาธิการปฏิรูปการพลังงาน รับหนังสือจากชมรมผู้ประกอบอาชีพนักขายอิสระทางดิจิทัลแห่งอาเซียน  ซึ่งเป็นผู้แทนของสมาชิกผู้ประกอบธุรกิจขายตรงอิสระ หรือผู้ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง โดยมีสมาชิกในระบบกระจายอยู่ในหลายประเทศของเอเชียและอาเซียน รวมทั้งประเทศไทย เพื่อขอให้สภาปฏิรูปแห่งชาติพิจารณาผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมายและกฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ ของภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ที่ขัดแย้งกับการประกอบธุรกิจขายตรงทางดิจิทัลในประเทศไทย เช่น

๑. กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคของประเทศไทยมีเนื้อหาอันอาจขัดต่อลักษณะสำคัญทางการค้าระหว่างประเทศ ไม่ทำให้เกิดผลดีหรือมีประโยชน์ในระบบการค้าเสรีอาเซียน อาจทำให้ประเทศไทยต้องเสียเปรียบดุลทางการค้า และการค้าขายสินค้าทางดิจิทัล อินเทอร์เน็ตในโลกอนาคต

๒. ข้อห้ามการซื้อขายสินค้า การโฆษณา ผลประโยชน์ตอบแทน และการโฆษณาชักจูงผู้อื่นให้เข้ามาซื้อขายสินค้าหรือบริการ รวมทั้งสิทธิต่างๆ ที่ผู้บริโภคจะได้รับ อาจถูกจำกัด ส่งผลให้ไม่เอื้อประโยชน์ต่อการค้า การลงทุนระหว่างประเทศ เกิดภาพลักษณ์เชิงลบต่อประเทศไทย และส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ

๓. ผู้บริโภค หรือผู้ประกอบธุรกิจ ถูกกลั่นแกล้งจากกลุ่มบคคลที่ไม่ประสงค์ดี และไม่มีการแข่งขันทางการที่เป็นธรรม  นักธุรกิจต่างชาติไม่เข้าใจ ส่งผลเสียต่อโอกาสทางการค้าและการลงทุนของประเทศไทยต่อภูมิภาคอาเซียน และอาจมองว่าถูกกีดกันทางการค้า

๔. ชมรมผู้ประกอบอาชีพนักขายอิสระทางดิจิทัล จึงขอให้สภาปฏิรูปแห่งชาติ นำเอาโอกาสในการปฏิรูปประเทศในครั้งนี้ จัดกลไกที่มีประสิทธิภาพ สร้างเสริมระบบธรรมาภิบาลในทุกภาคส่วนของการค้าขายตลาดดิจิทัลบนโลกอินเทอร์เน็ตให้มีความทันสมัยและเป็นธรรม เพื่อเป็นแนวทางในการประกอบธุรกิจประเภทเดียวกันนี้ต่อไป