คณะอนุกรรมการ กิจกรรมภายในองค์กร โฆษกสาร ติดต่อเรา ติดต่อเรา หน้าหลัก
 
« มีนาคม 2568 »
อา. จ. อ. พ. พฤ. ศ. ส.
       1
2 3 4 5 6 7 8
9 10 11 12 13 14 15
16 17 18 19 20 21 22
23 24 25 26 27 28 29
30 31
ดูปฏิทินทั้งหมด
หน้าหลัก ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวที่น่าสนใจ บทความ รัฐสภา สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ตารางกิจกรรม
-->
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาปฏิรูปแห่งชาติ
การแถลงข่าวพิธีส่งมอบรายงานสรุปความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ

๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 19 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2557

วันศุกร์ที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๓.๐๐ นาฬิกา ณ ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ หมายเลข ๒๑๓-๒๑๖ ชั้น ๒ อาคารรัฐสภา ๒ นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ พร้อมด้วยศาสตราจารย์บวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ คนที่หนึ่ง และรองศาสตราจารย์ทัศนา บุญทอง รองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ คนที่สอง ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังเสร็จสิ้นพิธีส่งมอบรายงานสรุปความเห็นและข้อเสนอแนะในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญของสภาปฏิรูปแห่งชาติต่อคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ โดยประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ กล่าวว่า การทำงานของสภาปฏิรูปตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ มีภารกิจสำคัญ ๒ ประการคือการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ และการปฏิรูปประเทศในด้านต่าง ๆ ซึ่งในการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญก้าวแรกคือการเสนอความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญภายใน ๖๐ วันนับแต่วันที่ประชุมสภาปฏิรูปครั้งแรกได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว สำหรับการปฏิรูปประเทศในด้านต่าง ๆ นั้นเป็นภารกิจสำคัญที่สภาปฏิรูปจะต้องดำเนินการคู่ขนานกันไปกับการยกร่างรัฐธรรมนูญ โดยนับตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (๒๐ ธ.ค. ๕๗) เป็นต้นไปได้มีการกำหนดกรอบในการปฏิรูปไว้เป็น ๓ ส่วน ได้แก่

                    ๑. ส่วนที่หนึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวิธีปฏิบัติ หรือกระบวนการบางอย่างซึ่งสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับการแก้ไขกฎหมายระดับพระราชบัญญัติ หรือไม่จำเป็นต้องตราพระราชบัญญัติขึ้นใหม่ ซึ่งจะดำเนินการตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไป เช่น เรื่องเกี่ยวกับการถือปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการออมแห่งชาติ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการออกกฎหมายใหม่ และในนัยยะสำคัญของพระราชบัญญัติการออมแห่งชาติให้ความสำคัญกับบุคคลซึ่งประกอบอาชีพอิสระ ซึ่งหมายถึงเกษตรกรซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ สภาปฏิรูปแห่งชาติจะพิจารณาเร่งรัดให้ทันก่อนปีใหม่รายละเอียดต่าง ๆ ต้องติดตามกันต่อไป

                    ๒. ส่วนที่สอง เป็นการปฏิรูปที่จำเป็นที่จะต้องมีการปรับปรุง หรือแก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติเดิม หรือตราพระราชบัญญัติขึ้นใหม่ หรือการวางโครงสร้างหรือจัดรูปองค์กรใหม่ เช่นเรื่องวิสาหกิจชุมชน ในนัยยะสำคัญอยู่ที่กระบวนการและแนวคิดที่จะรองรับหลักการที่ว่าชุมชุนอาจทำวิสาหกิจได้โดยไม่ใช่ลักษณะวิสาหกิจหรือธุรกิจที่แสวงหากำไร ซึ่งเห็นว่าน่าจะมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ เรื่องการตั้งสมัชชาคุณธรรมแห่งชาติ ซึ่งจะมีการนำเสนอสภาปฏิรูปแห่งชาติเป็นหลักการสำคัญให้เห็นว่านอกจากการเผยแพร่ เก็บรวบรวม และรณรงค์ให้เกิดระบบคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาลให้เกิดขึ้นในประเทศชาติแล้วจะมีการกำหนดมาตรฐานคุณธรรมและจริยธรรมของผู้ที่ทำตนเป็นบุคคลสาธารณะซึ่งหมายรวมถึงนักการเมือง ผู้ที่ประสงค์หรือกระทำตนเป็นนักการเมือง หรือทำงานสาธารณะ รวมทั้งบุคคลในภาคเอกชนที่มีส่วนเกี่ยวข้องทางนิติกรรมกับภาคสาธารณะหรือภาครัฐ ซึ่งจะต้องเปิดเผยข้อมูลให้สาธารณชนได้รับรู้จะปกปิดคงไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้อาจมีความสำคัญถึงขั้นตราเป็นพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะต้องพิจารณากันต่อไป

                    ๓. ส่วนที่สาม เป็นการปฏิรูประบบ หมายถึงการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงหรือ    รื้อระบบซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ เช่น เรื่องการปฏิรูประบบการศึกษาไทย เรื่องระบบการจัดการรัฐวิสาหกิจไทย เรื่องระบบการงบประมาณ เป็นต้น ซึ่งการดำเนินการอาจไม่เสร็จสิ้นทันในยุคของสภาปฏิรูปแห่งชาติแต่ว่าหลักการและแนวคิดทั้งหมดน่าจะต้องเสร็จทันภายในระยะเวลา ๑ ปีข้างหน้า

                    ทั้งนี้ วิสัยทัศน์ที่จะนำพาประเทศไทยเดินไปข้างหน้าอย่างไรนั้น สภาปฏิรูปจะพิจารณาเพื่อตกลงกรอบวิสัยทัศน์ของประเทศไทยอีกครั้งหนึ่งหลังปีใหม่ และจากที่ได้เห็นคณะกรรมาธิการวิสัยทัศน์ได้ดำเนินการจนถึงขณะนี้นั้นมีผลถึงเปลี่ยนประเทศไทยจากจุดยืนปัจจุบันไปสู่อนาคตที่สดใสมากในวันข้างหน้า ขอให้ติดตามการทำงานของสภาปฏิรูปแห่งชาติต่อไป

 

download download Download all images download
เข้าสู่หน้าหลักเว็บไซต์โฆษกสาร