|
|||||||||||||
|
|||||||||||||
วันจันทร์ที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๒.๐๐ นาฬิกา ณ ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ ชั้น ๔ โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการสัมมนาของสมาชิกสภาปฏิรูป เรื่อง สายพลัง สปช. ออกแบบอนาคตประเทศไทยมีการสัมมนากลุ่มใหญ่ โดยผู้แทนของแต่ละกลุ่มนำเสนอผลการสัมมนากลุ่มย่อย ภายใต้หัวข้อ "เราจะไปสู่อนาคตที่หวังไว้ได้อย่างไร" ที่สมาชิก สปช.ได้ระดมความคิดเห็นร่วมกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ และการสร้างชุมชนเข้มแข็ง การลดอำนาจรัฐส่วนบน ขยายอำนาจฐานการเมืองส่วนล่าง สร้างสมดุลระหว่างการเมือง ราชการ และประชาชน
ลดความเหลื่อมล้ำทางด้านการศึกษา โดยกล่าวถึงภาครัฐต้องเพิ่ม การเปิดพื้นที่การศึกษาทางเลือก สร้างโอกาสให้แก่เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส
ผู้มีข้อจำกัดทางร่างกาย ให้เข้าถึงการศึกษาตามแผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ
นายดุสิต เครืองาม นำเสนอประเด็นลดความเหลื่อมล้ำทางด้านทรัพยากรธรรมชาติ โดยเน้นให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการใช้และเยียวยาทรัพยากรธรรมชาติให้สอดคล้องกับสภาพของชุมชน และท้องถิ่น รัฐมีหน้าที่สำรวจ ศึกษาข้อมูลทรัพยากรธรรทชาติเพื่อนำไปใช้อย่าง
เป็นธรรม
และนายชาติชาย ณ เชียงใหม่ นำเสนอประเด็นลดความเหลื่อมล้ำทางด้านเศรษฐกิจ โดยจะเร่งส่งเสริม ให้คนจนมีฐานะดีขึ้นและลดทอน
การร่ำรวยแบบไม่มีเหตุผลคือการเอาเปรียบผู้อื่นให้น้อยลง
และทรัพยากร ดังนี้ ๑. ด้านเศรษฐกิจ ควรจัดเก็บภาษีแบบขั้นบันได และผลักดันภาษีมรดกและที่ดิน จำกัดการถือครองที่ดิน
และตั้งธนาคารเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงเงินทุนของผู้มีรายได้น้อย ๒. ด้านการศึกษา ควรปรับแก้ พรบ. ระเบียบบริหารด้านบุคลากรทางการศึกษา ครู ให้อยู่กับผู้บริหารสถานศึกษาหรือท้องถิ่น ปรับปรุงคุณภาพด้านการศึกษา มีการเรียนการสอนที่ส่งเสริมให้เด็กใช้สมองมากกว่าการท่องจำ ๓. ด้านทรัพยากร เน้นสร้างการมีส่วนร่วมตัดสินใจของชุมชนในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงทรัพยากรและใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม ทั้งนี้ ในการสร้างพลเมืองไทยที่มีคุณภาพนั้นควรมีการกำหนดนโยบายในการพัฒนาพลเมืองไทยเป็นวาระแห่งชาติ โดยผ่านการศึกษาวัฒนธรรมและสื่อ ควรปรับบทบาทสื่อให้เสมือนหนึ่งเป็นครูช่วยสร้างจิตสำนึกการเป็นพลเมืองที่ดีให้ประชาชน โดยสอดแทรกเรื่องวินัยของประชาชนตั้งแต่อนุบาล ยกย่องคนดี ปลูกฝังความรักชาติและวัฒนธรรมไทย
กลุ่ม ๗ นายพงศ์โพยม วาศภูติ นายพิสิฐ ลี้อาธรรม และนางสาวสุภัทรา นาคะผิว เป็นตัวแทนกลุ่มผลัดเปลี่ยนกันนำเสนอต่อที่ประชุมว่า
ในเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ การศึกษา การเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติ โดยการปฎิรูปที่ดินโดยกระจายการถือครองที่ดิน
การตั้งธนาคารที่ดิน และนำระบบสหกรณ์มาใช้จัดการทรัพยากร โดยเฉพาะการนำระบบ โฉนดชุมชนมาใช้ สนันสนุนให้ผู้ประกอบการรายย่อยและผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่าย ส่งเสริมและสนับสนุนให้ภาคเอกชน อปท.ชุมชน เข้ามามีส่วนในการจัดการศึกษาให้มากขึ้น และควรให้ชุมชนมีสิทธิในการตัดสินใจในเรื่องการใช้ทรัพยากรท้องถิ่น เน้นการ "ลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจชุมชน" ทั้งนี้ยังได้มีการนำเสนอถึงปัญหาและอุปสรรค เช่น การเมืองขาดเสถียรภาพ ข้อเสนอแนะในการปฏิรูปประเทศของ สปช.ไม่ถูกนำไปใช้ เป็นต้น
เท่าเทียมกันทางด้านการศึกษา อาชีพและรายได้แก่คนพิการและผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ส่วนแรงต้านนั้นกลไกของภาครัฐและเอกชนไม่เอื้อต่อความเหลื่อมล้ำและความไม่เท่าเทียมกันในสังคม ฝันที่สอง แรงหนุน คือการให้ความรู้ให้การศึกษา การไม่ยอมรับคนโกง การแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น โดยการปรับปรุงกฎหมายการควบคุมการคอรัปชันทั้งด้านเศรษฐกิจ และการบริหารราชการแผ่นดิน ส่วนแรงต้านนั้น ยังคงระบบอุปถัมภ์พวกพ้องและกลุ่มผู้มีอิทธิพล
กลุ่ม ๙ นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ และนางสารี อ๋องสมหวัง เป็นผู้แทนนำเสนอประเด็นการลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ การศึกษา
และทรัพยากรธรรมชาติ โดยการลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน คนจนต้องมีรายได้ต่อหัวต่อปีเพิ่มขึ้นเป็นปีละหนึ่งล้านบาท ให้ประชาชนเกิดความรับรู้และเข้าถึงสวัสดิการขั้นพื้นฐาน อย่างทั่วถึง พร้อมทั้งกระตุ้นประชาชนให้มีความตื่นตัวในการรับรู้เกี่ยวกับสวัสดิการสังคมและการจัดการศึกษาให้เป็นวาระแห่งชาติ โดยให้เรียนฟรีในสายอาชีพ และปริญญาตรีใบแรก พร้อมทั้งปรับโครงสร้างเงินเดือนของสายอาชีพให้สูงขึ้น สำหรับด้านกฏหมายควรมีการตรวจสอบการบังคับใช้กฏหมายอย่างจริงจัง สำหรับด้านการเมืองเสนอให้มี "สภาพลเมือง"
มีหน้าที่คัดกรองคนดีลงสมัครรับเลือกตั้งการเมืองท้องถิ่นในทุกระดับ
กลุ่ม ๑๐ นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล และนาย กิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ เป็นผู้แทนนำเสนอประเด็นความเหลื่อมล้ำ โดยได้ผลัดเปลี่ยนกันนำเสนอความคิดเห็นในการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เห็นควรให้มีการจัดทำแผนระยะยาวเชิงยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนาการศึกษาให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน ควรกระจายทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ จัดหลักสูตรการศึกษาให้มีความหลากหลาย รวมทั้งพัฒนาคุณภาพครู และเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา กระจายการศึกษาสู่ท้องถิ่น ส่วนความเหลื่อมล้ำด้านเศรษกิจ ที่สำคัญควรมีการปฏิรูประบบภาษีอากร ระบบงบประมาณ รวมทั้งลดต้นทุนด้าน Logistics ลดการผูกขาด ปฎิรูปตลาดเงิน สำหรับการกระจายอำนาจนั้นควรมีการแยกอำนาจและภารกิจระหว่างรัฐบาลกับท้องถิ่นให้ชัดเจน กระจายอำนาจทางการคลัง ลดอำนาจรัฐบาลกลาง เพิ่มบทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้มากขึ้น |
![]() |
||
![]() |
![]() |
|
![]() |