วันอังคารที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๒ เวลา ๐๙.๐๐ นาฬิกา ณ ห้องเลอโลตัส ๑ โรงแรมสวิสโฮเต็ล

กรุงเทพฯ  นางพรพิศ เพชรเจริญ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และนายวิทวัส ชัยภาคภูมิ

รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ให้เกียรติกล่าวเปิดและกล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมสัมมนาในโครงการ

สัมมนาสาธารณะ TSRI-ASEAN Public Forum ในหัวข้อ "ไทยกับการเป็นประธานอาเซียน : ไทย

และอาเซียนได้อะไร? จะไปอย่างไรต่อ?" โดยมี ดร.วิชาวัฒน์ อิศรภักดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวง

การต่างประเทศให้เกียรติ เป็นผู้กล่าวนำ

       โอกาสนี้ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมสัมมนา โดยรู้สึกยินดีเป็น

อย่างยิ่งและขอขอบพระคุณผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศที่ได้ให้เกียรติเป็นกล่าวนำ

การสัมมนา พร้อมทั้งได้กล่าวถึงความเป็นมาจากอดีตจนถึงปัจจุบันของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชีย

ตะวันออกเฉียงใต้ หรือ ASEAN ว่าสามารถดำรงตนอย่างเข้มแข็งและมีเสถียรภาพอยู่ได้จากการบูรณาการ

การทำงานระหว่างภาคีเครือข่ายในทุกภาคส่วนร่วมกัน โดยสมัชชารัฐสภาอาเซียนในฐานะที่เป็นองค์กร

ด้านนิติบัญญัติของประชาคมอาเซียนมีอำนาจหน้าที่ในการเสนอแนะแนวนโยบาย ตลอดจนผลักดัน

ให้เกิดการจัดทำข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับผลประโยชน์ร่วมกันภายในอาเซียน เพื่อให้รัฐบาลและรัฐสภา

รับทราบและนำแนวนโยบายไปปฏิบัติตามสำหรับสร้างมาตรฐานและแนวทางกำหนดนโยบายของประเทศ

สมาชิกอาเซียน

       ในปี ๒๕๖๒ รัฐสภาไทยในฐานะประธานสมัชชารัฐสภาอาเซียน ครั้งที่ ๔๐ มุ่งเน้น การดำเนินงาน

ภายใต้แนวคิด “นิติบัญญัติ ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล เพื่อประชาคมที่ยั่งยืน” (Advancing Parliamentary

Partnership for Sustainable Community) โดยรัฐสภาไทยได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการสนับสนุน    

การทำงานร่วมกันระหว่างฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ ผ่านการนำกฎหมายและกฎระเบียบเข้ามาเป็น

แนวทางในการสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้แก่ประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของ

ประชากรในภูมิภาคให้มีความผาสุก ไร้ซึ่งการใช้ความรุนแรงแก่เด็กและสตรี  ปัญหายาเสพติดและปัญหา

สิ่งแวดล้อม รวมถึงการมุ่งพัฒนาเศรษฐกิจให้แก่ทุกภาคส่วนอย่างเท่าเทียมกัน

       ในการนี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวนำสัมมนา โดยได้สรุปถึงความมุ่งมั่น

ของอาเซียนในการเป็นแกนกลาง (ASEAN Centrality)  ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค

(RCEP) การบังคับใช้ ASEAN Single Window ให้ครบทั้ง ๑๐ ประเทศ การส่งเสริมการแก้ไขปัญหา

ข้ามพรมแดน และประเด็นที่เกี่ยวกับความมั่นคงของมนุษย์

       จากนั้น รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มอบของที่ระลึกแก่ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวง

การต่างประเทศ