|
ปฏิทินกิจกรรม |
« |
พฤศจิกายน 2567 |
» |
อา. |
จ. |
อ. |
พ. |
พฤ. |
ศ. |
ส. |
| | | | |
1 |
2 |
3 |
4 |
5 |
6 |
7 |
8 |
9 |
10 |
11 |
12 |
13 |
14 |
15 |
16 |
17 |
18 |
19 |
20 |
21 |
22 |
23 |
24 |
25 |
26 |
27 |
28 |
29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
ดูปฏิทินทั้งหมด |
|
|
|
|
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสำนักงานฯ |
การเสวนาเรื่อง ความท้าทายที่สื่อ ในอาเซียนต้องเผชิญ The challenges Faced by the Media in ASEAN
๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 2 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2561
|
วันพฤหัสบดีที่
๒ สิงหาคม ๒๕๖๑ เวลา ๑๖.๐๐ นาฬิกา ณ อาคารเฉลิมราชกุมารี ๖๐ พรรษา
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในงานเสวนาประชาคมอาเซียนของรัฐสภา ครั้งที่ ๔ และงานสัปดาห์จุฬาฯ
อาเซียน ครั้งที่ ๗ เป็นการเสวนาเรื่อง ความท้าทายที่สื่อในอาเซียนต้องเผชิญ The
challenges Faced by the Media in ASEAN โดยมีผู้ร่วมเสวนา
ประกอบด้วย ดร.เจษฎา ศาลาทอง อาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นางสาวปวีณา พลเขตต์ นายวิชญา ศิลาน้อย
นายศุภกิจ จิตตาพัฒวงศ์ และนายสุทธิมนัส จินากรพงศ์ โดย ดร.เจษฎา ศาลาทอง
กล่าวว่าปัจจุบันการบริโคสื่อของคนในอาเซียนเปลี่ยนแปลงไปมีการใช้สื่อโซเชียลเพิ่มมากขึ้น
ในภาพรวมของการใช้สื่อวิทยุโทรทัศน์ มีพัฒนาการที่สำคัญคือในปี ๒๐๐๘ มีการตั้งทีวีสาธารณะขึ้นชื่อว่า Thai PBS โดยได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากภาษีเหล้า บุหรี่
ทำให้สามารถดำเนินการได้อย่างเสรี ต่อมาในปี ๒๐๑๓
มีการเปลี่ยนแปลงจากโทรทัศน์ระบบอนาล็อกเป็นระบบดิจิตอล
ซึ่งปัจจุบันคนส่วนใหญ่ดูโทรทัศน์ผ่านโทรศัพท์มือถือ
ซึ่งสื่อจะต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้การชมภาพยนตร์บนอินเตอร์เน็ตก็ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสื่ออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปทำให้โทรทัศน์ดิจิตอลบางช่องปิดตัวลง
ด้านสื่อวิทยุยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีในนัยยะสำคัญ ซึ่งยังต้องพิจารณาถึงผลกระทบให้ดี จากรายงานของ กสทช. ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแล
มีสถานีวิทยุ พบว่าในประเทศไทยมีสถานีวิทยุกว่า ๓,๐๐๐ แห่ง
ส่วนใหญ่เป็นของทหาร อย่างไรก็ตาม วัยรุ่นก็ไม่ได้รับฟังจากวิทยุโดยตรงอีกต่อไป
แต่จะฟังจากระบบสตรีมมิ่งแทนส่วนหนังสือพิมพ์ในไทยเกิดขึ้นมานานมากซึ่งมีหนังสือพิมพ์หลากหลาย
แต่ปัจจุบันหนังสือพิมพ์และสื่อสิ่งพิมพ์มีรายได้น้อยลงมากทำให้หลายฉบับต้องปิดตัวลง
ทำให้ต้องปรับตัวโดยย้ายมาอยู่ในรูปแบบของหนังสือออนไลน์
ทำให้คนสามารถอ่านที่ไหนก็ได้และมีราคาถูกลง
และปัจจุบันไทยมีอัตราผู้ใช้อินเตอร์เน็ตเพิ่ม มากขึ้นเป็นอย่างมาก
ซึ่งการใช้แอพพิเคชันในแต่ละประเทศก็จะแตกต่างกันไป
อย่างไรก็ตามก็ต้องระมัดระวัง เรื่องข่าวปลอม
เช่นเรื่องข้าวปลอม ซึ่งระบาด ไปถึงแอฟริกา ส่งผลกระทบต่อการส่งออกข้าวของจีน
เป็นต้น ในไทยส่วนใหญ่ข่าวปลอมจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสาธารณสุข สำหรับเสรีภาพของสื่อ
ของไทยอยู่ที่ ๑๔๐ จากทั่วโลกและในอาเซียนก็จะมีอันดับใกล้เคียงกัน
จากนั้นนางสาวปวีณา พลเขตต์
และนายวิชญา ศิลาน้อย
ได้กล่าวถึงประสบการณ์จากการได้เดินทางไปแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับนักศึกษา มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว
พบว่าวัยรุ่นลาวติดตามข่าวและความบันเทิงจากไทยค่อนข้างมากโดยติดตามผ่านทางโทรทัศน์มากกว่าสื่อออนไลน์สำหรับการศึกษาดงานที่สถานีโทรทัศน์แห่งชาติลาวพบว่าผู้สื่อข่าวยังมีน้อย
และให้ความสำคัญกับการสื่อเป็นภาษาลาวเป็นหลักและ มีการตรวจสอบเข้มข้นก่อนการเผยแพร่
และข่าวต่างประเทศจะรับจากจีนและเวียดนามเท่านั้น และในอนาคต จะมีการปรับระบบเป็น HD ภายในอีก ๑ ๒ ปี นี้
ด้าน นายศุภกิจ จิตตาพัฒวงศ์
และนายสุทธิมนัส จินากรพงศ์ ได้นำเสนอถึงการศึกษาดูงานสื่อที่มหาวิทยาลัยอิสลามนานาชาติ
ในปีนี้ โดยกล่าวว่าวัยรุ่นของมาเลเซียส่วนใหญ่ใช้โซเชียลมีเดียเป็นหลัก
รองลงมาคือสื่อโทรทัศน์ โดยใช้แอพพิเคชัน what app มากที่สุด สำหรับการรับมือกับความท้าทายนั้นได้มีการศึกษา จากสถานีวิทยุโทรทัศน์ RTM
ซึ่งอยู่ในกำกับของรัฐ
โดยการผลิตสื่อให้ความสำคัญกับความต้องการของคนกลุ่มต่าง ๆ รวมทั้งมีการทำแอพพิเคชันของตนเอง รวมทั้งมีการนำเสนอผ่านช่องทางออนไลน์อื่น ๆ
ด้วย
|
|
|
|
สงวนลิขสิทธิ์โดยสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ถนนประดิพัทธ์ แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ ๑๐๔๐๐
โทร. ๐ ๒๒๔๔ ๒๕๐๐ email : webmaster@parliament.go.th http://www.parliament.go.th |
|
|