วันจันทร์ที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๐ เวลา ๑๓.๓๐ นาฬิกา ณ บริเวณห้องโถง ชั้น ๑ อาคารรัฐสภา ๑ นายสรศักดิ์ เพียรเวช
เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายประสิทธิ์ อนันตวิรุฬห์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และ นายโชติจุฑา อาจสอน
ที่ปรึกษาบริหารโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่กลุ่มนิติบุคคลร่วมทำงาน CAMA แถลงข่าวเกี่ยวกับโครงการก่อสร้าง
อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ว่ามีส่วนงานใหม่ที่เพิ่มขึ้นได้แก่ ดาต้าเซ็นเตอร์ ศูนย์ข้อมูลหลักและศูนย์ข้อมูลสำรอง และการปรับปรุง
ไอซีทีให้มีความทันสมัยเพิ่มขึ้น พร้อมชี้แจงว่าเจ้าหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ๑๘ คนไม่ได้คัดค้าน และยืนยัน
การดำเนินการเป็นไปตามระเบียบที่กฎหมายกำหนด เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่าการของบประมาณเพิ่มเติม
โครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่วงเงิน ๘,๖๕๘ ล้านบาท สาเหตุที่ต้องของบประมาณเพิ่มขึ้นจากเดิมตั้งไว้ ๓,๐๐๐ กว่า
ล้านบาท เนื่องจากที่ผ่านมา ไม่มีงบประมาณในเรื่องสาธารณูปโภค และระบบสารสนเทศ หรือ ไอที ซึ่งการขอ งบประมาณ
เพิ่มเติมเป็นไปตามการออกแบบที่ทันสมัยใหม่และมีความเหมาะสม
นายโชติจุฑา กล่าวว่าเดิมปี ๒๕๕๔ คณะรัฐมนตรีในขณะนั้นได้อนุมัติงบประมาณในการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่วงเงิน
๑๕,๐๐๐ กว่าล้านบาทเศษ โดยเป็นงบประมาณค่าก่อสร้างอาคารหลัก ๑๑,๓๐๐ กว่าล้านบาท งบประมาณด้านเทคโนโลยี
สารสนเทศและการสื่อสาร ๓,๐๐๐ กว่าล้านบาท และงบประมาณสาธารณูปโภคและระบบประกอบอาคาร ๕๘๖ ล้านบาท
ในส่วนของการก่อสร้างอาคารหลักทางรัฐสภาได้มีการจัดจ้าง บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)
ในวงเงิน ๑๒,๒๘๐ ล้านบาท โดยในส่วนของงบสาธารณูปโภคและระบบประกอบอาคาร ๕๘๖ ล้านบาท ซึ่งเดิมการออกแบบ
การก่อสร้างจะเสร็จสมบูรณ์เต็มระบบจะใช้งบประมาณ ๑๘,๐๐๐ ล้านบาท แต่เนื่องด้วยงบประมาณมีไม่เพียงพอ จึงต้องมี
การถอดงานบางส่วนออก ทั้งในส่วนงานโสตทัศนูปกรณ์ งานเทคโนโลยีสารสนเทศ และงานอื่น ๆ ทำให้ต้องมีงานต่าง ๆ เหล่านี้
เพิ่มเติมขึ้นมา ในส่วนงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจำนวนเงิน ๓,๐๐๐ ล้านบาทนั้นยังไม่ครบถ้วน เนื่องจากไม่ได้
มีการกำหนดในเรื่องของดาต้าเซ็นเตอร์ ศูนย์ข้อมูลหลักและศูนย์ข้อมูลสำรอง
จากนั้นนายประสิทธิ์ อนันตวิรุฬห์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่าที่มีข่าวว่าเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการ
สภาผู้แทนราษฎร ๑๘ คนคัดค้าน ขอชี้แจงว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีความเห็นขัดแย้งหรือคัดค้าน เพียงแต่ขอให้มีการพิจารณา
โดยรอบคอบตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งขอยืนยันว่าการดำเนินการ
ทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ เนื่องจากยังไม่ได้รับการ
จัดสรรงบประมาณ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวเพิมเติมว่าปัจจุบันในการดำเนินการได้มีประสานเป็นการภายในกับ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมโยธาธิการ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงบประมาณ
ในเรื่องรายละเอียดอย่างใกล้ชิดโดยหากได้รับการพิจารณาอนุมัติงบประมาณจะเร่งดำเนินการทันทีเพื่อให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้
|