กลับหน้าหลัก

เมนูหลัก


 ปฏิทินกิจกรรม
« พฤศจิกายน 2567 »
อา. จ. อ. พ. พฤ. ศ. ส.
      1 2
3 4 5 6 7 8 9
10 11 12 13 14 15 16
17 18 19 20 21 22 23
24 25 26 27 28 29 30
ดูปฏิทินทั้งหมด
 
                                 อ่านทั้งหมด...

วีดิทัศน์สำนักงานฯ



  • ประกวดนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาประชาธิปไตย ๒๕๖๔    download_icon

  • ๗๐ ปี แห่งสมาชิกภาพของรัฐสภาไทยในสหภาพรัฐสภา    download_icon

  • เล่าเรื่องในหลวง ร.๙ ภายใน ๒ นาที    download_icon

  • วีดิทัศน์เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้า    download_icon

  • สารานุกรมฉบับเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนฯ    download_icon

 แสดงทั้งหมด...

จำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสำนักงานฯ
ประธานสนช. รับยื่นหนังสือจากผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ประจำสำนักประธานศาลฎีกา

๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 22 ๏ฟฝ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2559

วันอังคารที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๙ เวลา ๑๔.๓๐ นาฬิกา ณ บริเวณห้องโถง อาคารรัฐสภา ๑ ศาสตราจารย์พิเศษ พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ รับยื่นหนังสือจากนายชาญณรงค์ ปราณีจิตต์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ประจำสำนักประธานศาลฎีกา เรื่อง ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติมาตรการแทนการฟ้องคดีอาญา พ.ศ. .... โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในหลักการพระราชบัญญัติมาตรการทดแทนการฟ้องคดีอาญา พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และมีข้อสังเกตให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาบางประการ และส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป ซึ่งศาลยุติธรรมพิจารณาแล้วเห็นว่า ร่างพระราชบัญญัติมาตรการแทนการฟ้องคดีอาญา พ.ศ. .... มีหลักการที่ขัดต่อหลักการที่สำคัญของสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานและส่งผลกระทบต่อกระบวนการอำนวยความยุติธรรมที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ ดังนี้
๑. การกำหนดมาตรการต่าง ๆ ให้ผู้ต้องหาต้องปฏิบัติ เช่น การคุมประพฤติ การกระทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ เป็นการปฏิบัติต่อผู้ต้องหาเหล่านั้นเสมือนว่าเป็นผู้กระทำความผิดอาญา โดยปราศจากกระบวนการพิสูจน์ความผิดของบุคคลเหล่านั้น จึงเป็นการขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่ต้องถือว่าบุคคลทุกคนต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาเป็นที่สุดของศาล
๒. การใช้อำนาจในการสั่งชะลอการฟ้องตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเป็นมาตรการที่ปราศจากกระบวนการตรวจสอบจากองค์กรภายนอกผู้ใช้อำนาจ ทำให้ขัดต่อหลักธรรมาภิบาลที่การใช้อำนาจรัฐควรจะต้องมีลักษณะสำคัญที่โปร่งใสต่อสาธารณชนและสามารถตรวจสอบจากองค์กรภายนอกได้
๓. การตัดสิทธิในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมทางศาลของผู้เสียหาย เนื่องจากตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมีบทบัญญัติที่ตัดสิทธิของผู้เสียหายที่ประสงค์จะใช้สิทธิทางศาลของตนและมีบทบังคับห้ามมิให้ศาลดำเนินกระบวนการพิจารณาคดีต่อไป แม้กระทั่งในกรณีที่ผู้เสียหายประสงค์จะใช้สิทธิทางศาลของตนและนำคดีมาฟ้องต่อศาลแล้วก็ตาม
๔. ระยะเวลาและอายุความในการดำเนินการกระบวนพิจารณาคดีอาญาอาจขยายไปได้จนแทบไม่มีข้อจำกัดหากมีคำสั่งให้ใช้มาตรการแทนการฟ้องอันจะทำให้พยานหลักฐานที่สำคัญสูญหายหรือเสียหายไปจนไม่สามารถใช้ในการพิสูจน์ความผิดของผู้ต้องหาหากมีความจำเป็นต้องดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลต่อไป ซึ่งจะทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมในระยะยาว
download download Download all images download
รัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ ข้อบังคับสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. ๒๕๕๘ ร้องเรียน/ร้องทุกข์ กฎหมายในกลุ่มอาเซียน ห้องข่าว
หอสมุดรัฐสภา กองทุนเพื่อผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา มาตรฐานการบำรุงรักษาอุปกรณ์ไอที สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ระบบซ่อมบำรุงอุปกรณ์ไอที สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา สโมสรรัฐสภา
เงินอุดหนุนการวิจัย ของที่ระลึกของรัฐสภา Web Mail รางวัลพานแว่นฟ้า บทความเกี่ยวกับคดีของศาลปกครอง
โครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ วารสารทรัพยากรบุคคลรัฐสภา ระบบสมุดโทรศัพท์ สผ. บน Smart Phone ติดต่อรัฐสภา
ศูนย์การจัดการความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ระบบ Intranet PMQA องค์กร สำนักงบประมาณของรัฐสภา การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงาน
รัฐสภาสีขาว เงินทุนหมุนเวียนเพื่อให้ข้าราชการสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรกู้ยืมเพื่อชำระหนี้สิน ชมรมรัฐสภาอาสา
สงวนลิขสิทธิ์โดยสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ถนนประดิพัทธ์ แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ ๑๐๔๐๐
โทร. ๐ ๒๒๔๔ ๒๕๐๐ email : webmaster@parliament.go.th http://www.parliament.go.th