วันจันทร์ที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๐ เวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกา ณ ห้องประชุมรัฐสภา ชั้น ๒ อาคารรัฐสภา ๑ พิธีส่งมอบงานของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศให้นายกรัฐมนตรีร้อยเอกทินพันธุ์ นาคะตะ ประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ กล่าวสรุปรายงานผลการดำเนินงานของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ที่ผ่านมา ว่าภารกิจที่สำคัญของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และรัฐบาลปัจจุบันมี ๓ อย่าง ได้แก่ การบริหารราชการแผ่นดิน การปฏิรูปประเทศ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง การปฏิรูปจึงเป็นพันธกิจหลักอย่างหนึ่งของรัฐ ซึ่งเป็นเรื่องของการแก้ปัญหา เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ที่มีความยั่งยืนพอสมควร โดยไม่ให้เกิดปัญหานั้น ๆ ซ้ำขึ้นมาอีก สำหรับผลการดำเนินงานของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ มีดังนี้๑. เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน โดยสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ มีส่วนสำคัญในการศึกษาและให้ข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการปฏิรูป ซึ่งปรากฏอยู่ในหมวด ๑๖ การปฏิรูปประเทศด้านต่าง ๆ ตามมาตรา ๒๕๗ ถึง ๒๖๑จากนั้นประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ได้ส่งมอบงานของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ให้พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในการนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ที่ได้เสียสละทำหน้าที่ เพื่อวางรากฐานให้ประเทศมีความแข็งแกร่ง เจริญก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศ และขอบคุณคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศทุกคณะ ที่ได้มุ่งมั่น ตั้งใจ เสนอการปฏิรูปด้านต่าง ๆ มายังรัฐบาลอย่างต่อเนื่องอีกทั้งได้กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปประเทศในประเด็นที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญจำนวน ๑๑ ด้าน ตลอดจนแนวทางการปฏิรูปประเทศในด้านต่าง ๆ และแผนพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ ๑๒ ที่ได้จัดทำบนพื้นฐานของกรอบยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ ๒๕๗๙) ซึ่งเป็นแผนหลักของการพัฒนาประเทศ เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ของประเทศในปี ๒๕๗๙ คือ ประเทศมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยมี ๖ ยุทธศาสตร์ เป็นกรอบการพัฒนาระยะยาว ประกอบด้วย๑. ความมั่นคง๒. การสร้างความสามารถในการแข่งขัน๓. การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคน๔. การสร้างโอกาสความเสมอภาคและเท่าเทียมกันทางสังคม๕. การสร้างความเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม๖. การปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐทั้งนี้ การพัฒนาประเทศในระยะแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๒ นี้ เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในการเชื่อมต่อกับยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี ในลักษณะการแปลงยุทธศาสตร์ระยะยาวสู่การปฏิบัติ โดยในแต่ละยุทธศาสตร์ของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๒ ได้กำหนดประเด็นการพัฒนา พร้อมทั้งแผนงานและโครงการสำคัญที่ต้องดำเนินการให้เห็นผลเป็นรูปธรรมในช่วง ๕ ปีแรกของการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ นอกจากนี้ ได้กล่าวถึงคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) เพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง และขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ ยุทธศาสตร์ และแผนต่าง ๆ ของชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ๒. เรื่องที่นายกรัฐมนตรี มีดำริให้เสนอปฏิรูป อาทิ การจัดตั้งศาลทุจริตและประพฤติมิชอบ และมีบางเรื่องที่สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ได้เสนอนายกรัฐมนตรีเป็นกรณีพิเศษ อาทิ โครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน การปฏิรูประบบความปลอดภัยทางถนน เป็นต้น ๓. ผลงานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ โดยเฉพาะแม่น้ำ ๕ สายที่จะต้องร่วมมือกันขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งปัจจุบันสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ได้ศึกษาและเสนอแนะเพื่อให้เกิดการปฏิรูปต่าง ๆ ต่อนายกรัฐมนตรีจำนวน ๑๘๘ เรื่อง