วันจันทร์ที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ เวลา ๑๒.๓๐ นาฬิกา ณ บริเวณห้องโถง อาคารรัฐสภา ๑ พลอากาศเอก คณิต สุวรรณเนตร ประธานกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการสื่อสารมวลชน พร้อมด้วยพลตำรวจตรี พิสิษฐ์ เปาอินทร์ รองประธานกรรมาธิการ คนที่หนึ่ง พลเอก ภิญโญ แก้วปลั่ง ที่ปรึกษากรรมาธิการ และนายอภิชาต จงสกุล โฆษกกรรมาธิการ ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการฯ ในการพิจารณาปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรม และมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. .... ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ ได้พิจารณาทบทวนเนื้อหาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว โดยในส่วนของคำจำกัดความ ได้มีการแก้ไขให้ครอบคลุมสื่อเทคโนโลยี สำหรับส่วนของโครงสร้างกรรมการวิชาชีพสื่อมวลชนแห่งชาตินั้น ได้เพิ่มจำนวนจาก ๑๓ คน เป็น ๑๕ คน โดยเพิ่มสัดส่วนของผู้แทนสมาชิกวิชาชีพจาก ๕ คน เป็น ๗ คน เนื่องจากพิจารณาให้สื่อภูมิภาคเข้ามาร่วมด้วย และยังมีการแก้ไขเนื้อหาเกี่ยวกับมาตรการคุ้มครองผู้เสียหายจากการทำหน้าที่สื่อ ให้ผู้เสียหายสามารถยื่นเอกสารร้องเรียนไปยังสภาวิชาชีพสื่อมวลชนได้ นอกจากนี้การออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนนั้น กรรมาธิการฯ เห็นว่าผู้ประกอบการและสื่อมวลชน จะต้องผ่านการอบรมหลักสูตรวิชาชีพเสียก่อน และเมื่อผ่านการอบรมแล้วจะมีการออกใบอนุญาตประจำตัวสื่อมวลชน อีกทั้งเจ้าของกิจการสื่อนั้นๆ จะต้องออกใบรับรองให้กับสื่อมวลชนในสังกัดตนเองด้วย สำหรับสื่อมวลชนที่ประกอบวิชาชีพก่อนที่กฎหมายฉบับนี้จะบังคับใช้ให้ถือว่ามีใบอนุญาตโดยอัตโนมัติ แต่จะต้องไปแจ้งกับสภาวิชาชีพฯ ภายใน ๒ ปี แต่สำหรับผู้ที่จะประกอบวิชาชีพสื่อรายใหม่จะต้องเข้ารับการอบรมตามหลักเกณฑ์ที่สภาวิชาชีพฯ กำหนด