วันพฤหัสบดีที่ ๑๐ มีนาคม เวลา ๑๕.๓๐ น. ณ บริเวณห้องโถง อาคารรัฐสภา ๑ นายนรชิต สิงหเสนี โฆษก กรธ. แถลงข่าวความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะ กรธ.ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาความเห็นและข้อเสนอแนะของประชาชน หน่วยงาน และองค์กรต่าง ๆ ที่มีต่อร่าง รธน.เบื้องต้น เรียงลำดับในแต่ละมาตรา โดยให้ความสำคัญกับทุกข้อเสนอแนะ โดยในวันนี้ที่ประชุมได้พิจารณาประเด็นเรื่องการปกครองส่วนท้องถิ่นและเรื่องการศึกษา แต่ก็ยังมีการพูดถึงเรื่องขององค์กรอิสระบางองค์กร ที่มีบางประเด็นที่ กรธ.บางท่านเห็นว่าควรได้รับการพิจารณา ซึ่งยังไม่มีข้อสรุปในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ยังมีประเด็นที่ กรธ.มีความห่วงใย ในเรื่องของการศึกษา ที่ยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน และเกิดความสับสนถึงความสำคัญของการศึกษาที่ กรธ.พิจารณา โดยยืนยันว่า ร่าง รธน.นี้ ได้ให้ความสำคัญกับการศึกษาและ การพัฒนาเด็ก เยาวชน เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีการส่งเสริมให้เอกชนและบุคคลธรรมดา สมทบทุนการศึกษา และสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งจะนำไปจัดทำเป็นกฎหมายลูกต่อไป ในการนี้ ได้กล่าวถึงการยกร่างมาตรา ๕๐ขึ้นใหม่ซึ่งจะเห็นได้ว่า กรธ. ไม่ได้ลดความสำคัญในเรื่องของการศึกษาแต่เป็นการเพิ่มทั้งเวลา และโอกาส โดยได้กำหนดให้รัฐต้องดำเนินการให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาตั้งแต่ก่อนวัยเรียนจนจบการศึกษาภาคบังคับอย่างมีคุณภาพ โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย และรัฐต้องดำเนินการให้ประชาชนได้รับการศึกษาตามความต้องการในระบบ ต่าง ๆ รวมทั้งส่งเสริมให้มีการเรียนรู้ตลอดชีวิตอีกทั้งรัฐต้องดำเนินการให้ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการศึกษาตามความถนัดของตนตลอดจนจัดตั้งกองทุนขึ้นเพื่อใช้ในการช่วยเหลือผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์และใช้ในการเสริมงบประมาณของรัฐเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการศึกษา และส่งเสริมการพัฒนาครู โดยรัฐจัดสรรงบประมาณให้กองทุนหรือใช้กลไกในทางภาษีซึ่งรวมทั้ง การให้ผู้บริจาคทรัพย์สินเข้ากองทุน ได้รับประโยชน์จากการลดหย่อนภาษี ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติซึ่งกฎหมายดังกล่าวอย่างน้อยต้องกำหนดให้การบริหารจัดการกองทุนเป็นอิสระและกำหนดให้มีการใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว