|
|
« |
พฤศจิกายน 2567 |
» |
อา. |
จ. |
อ. |
พ. |
พฤ. |
ศ. |
ส. |
| | | | |
1 |
2 |
3 |
4 |
5 |
6 |
7 |
8 |
9 |
10 |
11 |
12 |
13 |
14 |
15 |
16 |
17 |
18 |
19 |
20 |
21 |
22 |
23 |
24 |
25 |
26 |
27 |
28 |
29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
ดูปฏิทินทั้งหมด |
|
|
|
|
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ |
โฆษกกรธ. แถลงข่าว
๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 8 ๏ฟฝ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2559
|
วันอังคารที่ ๘ มีนาคม ๒๕๕๙ เวลา ๑๕.๐๐ นาฬิกา ณ บริเวณห้องโถง อาคารรัฐสภา ๑ นายอุดม รัฐอมฤต โฆษก กรธ. แถลงข่าวเกี่ยวกับความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะ กรธ. ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาความเห็นและข้อเสนอแนะของประชาชน หน่วยงาน และองค์กรต่าง ๆ ที่มีต่อร่าง รธน.เบื้องต้น เรียงลำดับในแต่ละมาตรา โดยให้ความสำคัญกับทุกข้อเสนอแนะ ซึ่งในวันนี้ได้มีการพิจารณาปรับแก้ไขในประเด็น ดังนี้ ๑.อำนาจหน้าที่ของศาล รธน. มีการปรับแก้ไขโดยลดบทบาทอำนาจหน้าที่ของศาลรธน.ลง จำนวน ๒ เรื่อง ได้แก่ - อำนาจวินิจฉัย ในกรณีไม่มีบทบัญญัติแห่ง รธน.บังคับแก่กรณีใด (มาตรา ๕/๑)โดยปรับแก้ไขให้เป็นการประชุมร่วมกันระหว่างประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา นายกรัฐมนตรี ประธานศาลฎีกา ประธานศาลปกครองสูงสุด ประธานศาล รธน.และประธานองค์กรอิสระ แทนที่จะเป็นอำนาจของศาล รธน.- อำนาจในการวินิจฉัยกรณีมีการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม (มาตรา ๒๓๑) ที่ได้ยกร่างให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ และส่งให้ศาล รธน.วินิจฉัยนั้น ได้ปรับแก้ใหม่ให้อำนาจวินิจฉัยเป็นของศาลฎีกา ๒. องค์ประกอบของตุลาการศาล รธน. - ได้ปรับแก้เรื่องการกำหนดอายุ จากเดิม ไม่ต่ำกว่า ๔๕ ปี แต่ไม่เกิน ๗๕ ปี โดยได้ปรับแก้เป็นอายุไม่ต่ำกว่า ๔๕ ปี แต่ไม่เกิน ๖๘ ปี นับแต่วันที่สมัครเข้ารับการสรรหา - วาระของตุลาการศาล รธน. จากเดิม ๙ ปี เป็น ๗ ปี และดำรงตำแหน่งได้เพียงวาระเดียว ๓. องค์คณะและอุทธรณ์คำพิพากษาในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยปรับแก้ในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้ -องค์คณะของผู้พิพากษาในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จากเดิม ๙ คน เป็นไม่น้อยกว่า ๕ คน แต่ไม่เกิน ๙ คน ตามที่กฎหมายบัญญัติ การเปิดกว้าง ให้มีการอุทธรณ์ คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ โดยให้สามารถอุทธรณ์ได้เหมือนคดีปกติ ทั้งในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษา จากเดิมที่ระบุให้อุทธรณ์เฉพาะข้อกฎหมายกับกรณีที่มีพยานหลักฐานใหม่ -การวินิจฉัยอุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกานั้น เพื่อให้เกิดความชัดเจนได้กำหนดให้ที่ประชุมใหญ่ของศาลฎีกา ดำเนินการเลือกองค์คณะ ซึ่งประกอบด้วยผู้พิพากษาในศาลฎีกา จากผู้ที่ดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าหัวหน้าคณะในศาลฎีกาหรือผู้พิพากษาอาวุโส ซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ซึ่งไม่เคยพิจารณาคดีนั้นมาก่อนจำนวน ๙ คน |
|
|
|