หน้าหลัก
Untitled Document
  ค้นหา :
 
« พฤศจิกายน 2567 »
อา. จ. อ. พ. พฤ. ศ. ส.
      1 2
3 4 5 6 7 8 9
10 11 12 13 14 15 16
17 18 19 20 21 22 23
24 25 26 27 28 29 30
ดูปฏิทินทั้งหมด
จำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์

คลิกอ่านข่าววิทยุรัฐสภา

ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ
คณะกรรมารธิการขับเคลื่อนฯ ด้านกีฬาฯ จัดโครงการสัมมนาเรื่อง การกำหนดแนวทางให้การสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการกีฬาและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการกีฬา

๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 25 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2559

วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ เวลา ๐๘.๓๐ นาฬิกา ณ ห้องประชุม สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจ

และสังคมแห่งชาติ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา อาคารรัฐประศาสนภักดี ชั้น ๒ ถ.แจ้งวัฒนะ

กรุงเทพฯ คณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการกีฬา ศิลปะ วัฒนธรรม การศาสนา คุณธรรมและจริยธรรม ที่มี พลเอก ยุทธศักดิ์ ศศิประภา เป็นประธาน จัดโครงการสัมมนาเรื่อง“การกำหนดแนวทางให้การสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการกีฬาและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการกีฬา” โดยมี นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีเปิด และพลเรือเอก อภิวัฒน์ ศรีวรรธนะ ประธานอนุกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านบริหารจัดการการกีฬา เป็นผู้กล่าวรายงาน โดยการสัมมนานี้ เป็นการจัดร่วมกันของคณะขับเคลื่อนฯ ด้านกีฬาฯ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา  สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสมาคมการจัดการกีฬาแห่งประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและรับทราบปัญหาข้อขัดข้องในการประกอบการ และรับทราบความต้องการในเชิงลุกของอุตสาหกรรมการกีฬา และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการกีฬา เพื่อประกอบการกำหนดแนวทางส่งเสริมอุตสาหกรรมการกีฬา ตลอดจนสร้างเครือข่ายของการประสานงานระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการกีฬา และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการกีฬา โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมการกีฬาว่า เป็นกลไกสำคัญประการหนึ่งในการสร้างมูลค่าเศรษฐกิจของประเทศ จึงได้กำหนดเป็นกรอบความเห็นร่วมเพื่อการปฏิรูปให้ สปช. พิจารณาให้การส่งเสริม จึงได้จัดทำเป็นวาระปฏิรูปที่ ๑๙ การกีฬา โดยการส่งเสริมอุตสาหกรรมการกีฬา ได้พิจารณาร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จนเกิดเป็นข้อยุติร่วมที่จะต้องให้การสนับสนุน และส่งเสริมอุตสาหกรรมการกีฬาของประเทศ ซึ่งจากนี้ไป สปท.จะต้องเร่งดำเนินการส่งเสริมอุตสาหกรรมการกีฬาและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการกีฬาให้บังเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับชั่วคราว พุทธศักราช ๒๕๕๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ทั้งนี้ ได้มีการแบ่งกลุ่มย่อยจำนวน ๕ กลุ่ม ได้แก่

๑.กลุ่มที่ให้บริการทางด้านสถานบริการออกกำลังกาย และสโมสรกีฬาสมัครเล่น

๒. กลุ่มสื่อสารมวลชน กิจกรรมการตลาด โฆษราประชาสัมพันธ์ สิทธิประโยชน์ ลิขสิทธิ์ทางการกีฬา และกีฬาอาชีพ

๓. กลุ่มจัดการแข่งขันกีฬา ท่องเที่ยวเชิงกีฬา และนันทนาการ

๔. กลุ่มการบริการทางวิทยาศาสตร์การกีฬา เวชศาสตร์การกีฬา และผู้ผลิตบุคลากรทางการกีฬา

๕. กลุ่มผู้ผลิต ผู้ค้า ผู้นำเข้า และส่งออกอุปกรณ์การกีฬา 

สำหรับการจัดสัมมนานี้นั้นจึงเป็นโอกาสอันดีที่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการกีฬาและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการกีฬา จะได้ใช้เป็นเวทีเพื่อแสดงความคิดเห็นและนำเสนอความต้องการที่จะให้ภาครัฐให้การสนับสนุนและส่งเสริม ซึ่งจะทำให้อุตสาหกรรมการกีฬาและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการกีฬาของไทย มีการพัฒนาไปสู่การแข่งขันในระดับสากลได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างมีเสถียรภาพต่อไป 
 
ทั้งนี้สำหรับผลการสัมมนานั้น สรุปสาระสำคัญได้ นี้

๑.กลุ่มที่ให้บริการทางด้านสถานบริการออกกำลังกาย และสโมสรกีฬาสมัครเล่น  นำเสนอว่าควรมีกฎหมายเพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพและสวัสดิการของนักกีฬา เพื่อให้ความมั่นคงในชีวิตแก่นักกีฬา ควรมีการปรับปรุงข้อปฏิบัติของสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคในเรื่องการลดรายละเอียด เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าในการบริการทางการกีฬา และควรมีมาตรการทางภาษีเพื่อสนับสนุนการออกกำลังกายและการเล่นกีฬาของประชาชน

๒. กลุ่มสื่อสารมวลชน กิจกรรมการตลาด โฆษราประชาสัมพันธ์ สิทธิประโยชน์ ลิขสิทธิ์ทางการกีฬา และกีฬาอาชีพ นำเสนอว่าควรจัดให้มีคณะกรรมการร่วมภาครัฐและภาคเอกชนในการส่งเสริมการลงทุนและการบริหารจัดการด้านการกีฬาให้ครบวงจร เพื่อพัฒนาให้ธุรกิจการกีฬาก้าวไปสู่การเป็นมืออาชีพ

๓. กลุ่มจัดการแข่งขันกีฬา ท่องเที่ยวเชิงกีฬา และนันทนาการ ให้ความเห็นว่านโยบายการส่งเสริมของภาครัฐมีความเหมาะสม แต่มีปัญหาในการปฏิบัติ ซึ่งทำมห้เกิดความสับสนแก่ผู้ประกอบการ ซึ่งภาครัฐคสรดำรงบทบาทเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการดำเนินกิจกรรมทางการกีฬา

๔. กลุ่มการบริการทางวิทยาศาสตร์การกีฬา เวชศาสตร์การกีฬา และผู้ผลิตบุคลากรทางการกีฬา ให้ข้อเสนอว่าการผลิตบุคลากรของภาครัฐเพื่อการกีฬา ยังไม่มีความเป็นมาตรฐาน และไม่ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงานทางการกีฬา อีกทั้งอุปกรณ์ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าจากต่างประเทศและมีราคาสูง จึงควรส่งเสริมในเรื่องการวิจัยและพัฒนาภายในประเทศ

๕. กลุ่มผู้ผลิต ผู้ค้า ผู้นำเข้า และส่งออกอุปกรณ์การกีฬา ให้ความเห็นว่า แรงงานที่อยู่ในภาคอุตสาหกรรมการกีฬา ส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือและขาดประสิทธิภาพ ดังนั้นภาครัฐจึงควรส่งเสริมและพัฒนาแรงงานไทย เพื่อรองรับระบบอุตสาหกรรมการกีฬา โดยไม่ให้แรงงานที่มีฝีมือและทักษะหลั่งไหลไปนอกประเทศ และควรแก้ไขปัญหาความชัดเจนเรื่องภาษีนำเข้าและส่งออก รวมถึงการละเมิดลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้า ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมการกีฬา นอกจากนี้ควรพัฒนาหลักสูตร Sport Management เพื่อให้มีการผลิตบุคลากรได้ตรงตามความต้องการของตลาด รวมถึงการกำหนดแนวทางที่ชัดเจนของเจ้าหน้าที่ภาครัฐในการตีความของอุปกรณ์กีฬาและอุปกรณ์ทางการแพทย์
ทั้งนี้ผลจากการสัมมนาจะเป็นกลไกสำคัญในการนำพาทิศทางการกีฬาของประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าและเป็นความหวังของพี่น้องประชาชน
download download Download all images download
ร้องเรียน / ร้องทุกข์ หนังสือและสื่อเผยแพร่ ติดต่อรัฐสภา