วันศุกร์ที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๘ เวลา ๙.๓๕ นาฬิกา ณ ห้องประชุมคณะกรรมาธิการหมายเลข ๓๗๐๑ ชั้น ๗ อาคารรัฐสภา ๓ ร้อยเอกทินพันธุ์ นาคะตะ ประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ คนที่หนึ่ง และนางสาววลัยรัตน์ ศรีอรุณ รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ คนที่สอง ร่วมพบปะสื่อมวลชนประจำรัฐสภา โดยประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศได้กล่าวว่า สื่อมวลชนมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศเป็นอย่างมาก เพราะมีส่วนช่วยในการแก้ไขปัญหาให้แก่สังคมและเป็นผู้นำความคิดทางสังคมในการปลูกฝังจิตใจของคนไทย รวมทั้งเป็นผู้รับใช้ประเทศชาติ รับใช้สังคมและทุกคนในประเทศมีหน้าที่รับใช้ชาติเป็นผู้ที่มีบทบาทต่อประเทศ ทั้งด้านการตรวจสอบ เสนอแนะ และชี้ให้เห็นปัญหาของสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนช่วยแก้ไขปัญหาของสังคมด้วย ดังนั้นสื่อมวลชนต้องสร้างความเป็นหนึ่งเดียวให้เกิดขึ้นในประเทศ ช่วยกันพัฒนาประเทศ และยึดมั่นผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ ตนมีจุดยืนในการทำงานแบบปิดทองหลังพระซึ่งเป็นสูตรในการทำงาน และมีวิสัยทัศน์คือมีความตั้งใจ ความปรารถนาเพื่อให้เกิดสิ่งที่ดีขึ้น การปฏิรูปนั้น เป็นการฟ้องว่าหน่วยงานนั้นๆ มีความบกพร่องจึงต้องมีการปฏิรูปซึ่งส่วนใหญ่จะได้รับการต่อต้านเนื่องจากไม่ต้องการให้ประชาชนรู้ว่ามีความบกพร่องเกิดขึ้นในหน่วยงานของตนเอง และไม่ต้องการรับการแก้ไข ซึ่งทุกอาชีพควรมีการปฏิรูปตนเองก่อนไปปฏิรูปคนอื่น
ในการปฏิบัติงานนั้น ประธานฯ ไม่มีสิทธิใช้ความคิดเห็นส่วนตัวในการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนและไม่สามารถตอบแทนสมาชิกได้ ซึ่งเป็นมารยาทที่สำคัญของการพูดรวมทั้งไม่มีสิทธิชี้นำต้องวางตัวเป็นกลาง สามารถพูดแทนสมาชิกได้เฉพาะมติของที่ประชุมเท่านั้น เพราะทุกคนมีคุณค่าในตัวเอง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศเป็นสภาวิชาการ เป็นสภาที่ปรึกษามีหน้าที่ศึกษาค้นคว้าวิจัยในแต่ละประเด็นโดยมีแผน มาตรการ วิธีการแก้ไขปัญหาให้เป็นรูปธรรมเท่านั้น ดังนั้นสื่อมวลชนต้องเข้าใจว่าผู้มีอำนาจไม่สามารถตัดสินใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะมีตัวแปร มีเงื่อนไข และมีหลายมิติในทุกประเด็นปัญหาเป็นสหวิทยาการ จึงต้องมองหลายด้านด้วยกัน มีการพิจารณาอย่างรอบคอบและไม่ควรพิจารณาด้านเดียว