|  
													
													
													
											 | 
				
				 
					| 
											 | 
					 
													
																			
															
									 ห้องข่าว >>  ภาพข่าว >>   ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร  									 |  
																																	
										นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ และคณะ แถลงข่าว จำนวน 3 ประเด็น  
																															๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 5 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2565 
																				
																				
										
										 
										
										
										
										
										
									 | 
								 
								
																												
								 
								
							 
							
							 
	
  
     
    วันพุธที่ 5 ตุลาคม 2565 เวลา 13.00 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ และคณะ แถลงข่าว จำนวน 3 ประเด็น ดังนี้   1. กรณีคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญประเด็นวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งพรรคไทยศรีวิไลย์เคารพในคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โดยมีมติ 6 : 3 เสียง ให้นับวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปี ของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560 เริ่มนับตั้งแต่ 6 เม.ย. 60 และให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป  โดยทางพรรคจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลต่อไป  2. กรณีการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2566 พรรคพร้อมเป็นหนึ่งตัวเลือกในสนามเลือกตั้งให้กับพี่น้องประชาชนชาวไทย จำนวน 66 ล้านคน ให้พิจารณาเลือกเข้ามาทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร โดยพรรคจะส่งผู้สมัคร ส.ส.เขตใน 77 จังหวัดให้ได้ครบ จำนวน 400 เขตเลือกตั้ง และ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ จำนวน 100 รายชื่อ และจะเสนอชื่อ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมทำหน้าที่ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล  3. กรณีสถานการณ์น้ำท่วมในปัจจุบัน ที่ทำความเดือดร้อนให้กับประชาชนทั่วประเทศเป็นอย่างมาก และมีโอกาสที่น้ำจะท่วมสูงเช่นเดียวกับ พ.ศ. 2554 ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เคยมีแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการช่วยเหลือประชาชนในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ของ ส.ส.แบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และพรรคการเมืองไว้ คือ ถ้าเป็น ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง สามารถช่วยเหลือประชาชนได้ไม่เกิน 300,000 บาทต่อเหตุการณ์ ถ้าเกินจำนวนนี้จะนับรวมเป็นรายจ่ายในการเลือกตั้งครั้งถัดไป ส่วนกรณีที่เป็นพรรคการเมืองจะช่วยเหลือประชาชนได้ไม่เกิน 3,000,000 บาทต่อเหตุการณ์ ถ้าเกินจะนับรวมเป็นรายจ่ายในการเลือกตั้งครั้งถัดไป  รวมทั้งขอให้ กกต.เร่งออกระเบียบการให้ความช่วยเหลือต่อกรณีน้ำท่วมโดยด่วน เพื่อไม่ให้ผิดกฎหมายว่าด้วยค่าใช้จ่ายการเลือกตั้ง และกฎหมายว่าด้วยการหาเสียงเลือกตั้งที่กำหนด 180 วัน เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนรวมทั้งขอเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาใช้งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นในการแก้ไขดังกล่าวโดยเร่งด่วน        | 
   
 
								
								
								
								
								
								 | 
							
																	
																	
																	
																	
																	
															 | 
					
					 
						 
															
															
															
  
    
															
 สงวนลิขสิทธิ์โดย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ๑๑๑๑ ถ.สามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐ 
	Call Center ๑๗๔๓ โทรศัพท์ ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๐๐ โทรสาร ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๙๐ 
	e-Mail : webmaster@parliament.go.th [ คลิกดูแผนที่]  
															
															 | 
															
															 | 
															
															 | 
 
 
 
													 |