วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม 2565 เวลา 14.45 น. ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายบัญญัติ เจตนจันทร์ โฆษกคณะ กมธ. วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... แถลงข่าวความคืบหน้าผลการประชุมคณะ กมธ. เมื่อวันพุธที่ 25 พ.ค.65 โดยมีผลการประชุม ดังนี้ 1) เห็นชอบให้แก้ไขเรื่องผู้ค้ำประกัน โดยกำหนดให้ไม่มีผู้ค้ำประกันในการกู้ยืมเงินจากกองทุน เว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นและสมควร หากเป็นการกู้ยืมในระดับสูงกว่าปริญญาตรี หรือการให้ทุนการศึกษา คณะกรรมการจะกำหนดให้มีผู้ค้ำประกันก็ได้ (มาตรา 13 (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 41 วรรคสอง) 2) เห็นชอบเรื่องการระงับแห่งหนี้ โดยขยายเหตุที่ทำให้หนี้ระงับมากขึ้นจากกฎหมายปัจจุบันที่กำหนดไว้เฉพาะกรณีลูกหนี้ถึงแก่ความตาย เช่น เพิ่มกรณีล้มละลาย ยกเว้นเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต พิการหรือทุพพลภาพจนไม่สามารถประกอบการงานหรือประกอบอาชีพได้ ทั้งนี้ ตามลักษณะและระยะเวลาที่คณะกรรมการประกาศกำหนด เป็นโรคอันตรายร้ายแรงหรือมีเหตุอันไม่สามารถประกอบการงานหรือประกอบอาชีพได้ ทั้งนี้ ตามลักษณะและระยะเวลาที่คณะกรรมการประกาศกำหนด รวมทั้งกรณีที่ผู้ค้ำประกันถึงแก่ความตาย ให้ความรับผิดของผู้ค้ำประกันเป็นอันระงับไปด้วย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อลูกหนี้มากขึ้น (มาตรา 20 (แก้ไขมาตรา 49)
สำหรับกรณีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ ได้แก่ 1) การกำหนดให้สามารถผ่อนผันการชำระหนี้ ลดหย่อนหนี้ ปรับโครงสร้างหนี้ แปลงหนี้ใหม่ หรือระงับการชำระเงินคืนกองทุน ในทุกช่วงเวลาตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกองทุนกำหนด แม้มีคำพิพากษาแล้วหรืออยู่ระหว่างการบังคับคดีแล้วก็ตาม ซึ่งจะช่วยเหลือลูกหนี้ที่ถูกฟ้องคดีหรือถูกยึดทรัพย์แล้ว ให้สามารถปรับโครงสร้างหนี้ หรือแปลงหนี้ใหม่ได้ และให้ผ่อนชำระใหม่ (มาตรา 17แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 44) 2) ในกรณีที่มีการทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ภายหลังมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุดแล้วหรือในระหว่างการบังคับคดี หากผู้กู้ยืมเงินผิดนัดไม่ชำระหนี้ตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ ถ้าระยะเวลาการบังคับคดีได้สิ้นสุดลงก่อนแล้วหรือเหลือไม่ถึงสามปี ให้ดำเนินการบังคับคดีได้ภายในสามปีนับแต่วันที่ผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ ทั้งนี้ การขยายระยะเวลาบังคับคดีดังกล่าว เพื่อให้ลูกหนี้ได้มีระยะเวลาในการชำระหนี้มากขึ้น (มาตรา 17แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 44) 3) ในกรณีที่มีการทำสัญญาแปลงหนี้ใหม่ภายหลังมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุดแล้วหรือในระหว่างการบังคับคดี ให้ถือว่าหนี้ตามคำพิพากษาเป็นอันระงับไป หากมีการยึดหรืออายัดทรัพย์สินไว้ ให้ถอนการยึดหรืออายัดทรัพย์สินนั้น และให้ผู้กู้ยืมเงินมีหน้าที่ชำระหนี้ตามที่ระบุไว้ในสัญญาแปลงหนี้ใหม่ (มาตรา 17แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 44) ทั้งนี้ กมธ.ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับหลักเกณฑ์ในการช่วยเหลือลูกหนี้ดังกล่าว เนื่องจากเป็นกลไกช่วยเหลือลูกหนี้ให้สามารถชำระหนี้คืนกองทุนได้ ซึ่งกรณีดังกล่าวนี้ จะมีผลไปช่วยเหลือลูกหนี้ที่เป็นหนี้อยู่ก่อนที่ร่างพระราชบัญญัตินี้จะมีผลบังคับด้วย อย่างไรก็ตาม คณะ กมธ.อยู่ระหว่างการพิจารณาในรายละเอียด เพื่อให้เกิดความรอบคอบก่อนที่จะให้ความเห็นชอบในประเด็นดังกล่าวต่อไป
|