|
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร |
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ แถลงข่าว
๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 22 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2564
|
วันพุธที่ 22 ธันวาคม 2564 เวลา 11.00 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ แถลงข่าวเกี่ยวกับการเสนอญัตติให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะ กมธ.วิสามัญศึกษาการจัดระเบียบซ่อง (อาบอบนวด นวดแผนโบราณ นวดสปา เลานจ์ คาราโอเกะ) โสเภณี Sex Worker (พนักงานนวด เด็กดริงค์ โคโยตี้ ไซด์ไลน์ เด็ก En-EnV- EnUp) ให้ถูกกฎหมาย เพื่อเปลี่ยนจากส่วยเจ้าหน้าที่รัฐเป็นภาษี และเพื่อหาแนวทางในการจัดระเบียบสังคม การท่องเที่ยว การสาธารณสุข การคุ้มครองผู้ประกอบการและผู้ประกอบอาชีพดังกล่าว รวมทั้งเพื่อเป็นการหารายได้เข้ารัฐโดยนำภาษีมาสร้างสวัสดิการเพื่อประชาชน
ทั้งนี้ ประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็นสยามเมืองยิ้มและซ่องโสเภณีแห่งเอเชียในเวลาเดียวกัน เพราะนอกจากการเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมกับธรรมชาติอันสวยงามแล้ว ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อความบันเทิงทางเพศที่มีชื่อเสียง จากการมีสถานบริการทั้งในรูปแบบของโรงแรมม่านรูด ร้านอาบ อบ นวด ทั้งในกรุงเทพฯ และตามหัวเมืองใหญ่ อาทิ เชียงใหม่ พัทยา และภูก็ต ซึ่งทำรายได้ให้ผู้ประกอบการและผู้ประกอบอาชีพดังกล่าวอย่างมหาศาลโดยปัจจุบันมีประชาชน ทั้งเพศหญิง เพศชาย และ LGBT ได้เข้ามาประกอบอาชีพเป็นโสเภณี Sex Worker (พนักงานนวด เด็กดริงค์ โคโยตี้ ไซด์ไลน์ เด็ก En-EnV-EnUp) จำนวนไม่น้อยกว่า 5 แสนคน และผู้ประกอบการซ่อง (อาบอบนวด นวดแผนโบราณ นวดสปา เลานจ์ คาราโอเกะ) ร่วม 10,000 แห่ง แม้ปัจจุบันเราจะมี พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ 2539 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 แล้วก็ตาม แต่ไม่สามารถควบคุมไม่ให้มีอาชีพแบบนี้ได้ ซึ่งอาชีพดังกล่าวมีมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา กรุงรัตนโกสินทร์ จวบจนปัจจุบัน มีทั้งช่วงที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย แม้ปัจจุบันประเทศไทยห้ามมีซ่อง - โสเภณี แต่ก็เปลี่ยนเป็นชื่ออื่นเพื่อเลี่ยงกฎหมาย รวมทั้งปัจจุบันเจ้าหน้าที่รัฐหรือตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ปกครอง ก็ยังได้ส่วยจากทุก ๆ สถานประกอบการดังกล่าวทั้งหมดและขณะนี้ประเทศไทยมีวิกฤตทางการเงิน รายรับไม่พอร่ายจ่าย มีหนี้สาธารณะกว่า 9.4 ล้านล้านบาท หนี้ครัวเรือนกว่า 14.27 ล้านล้านบาท หนี้พันธบัตรทุกประเภทกว่า 11.4 ล้านล้านบาท แม้จะมีทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ 9.258 ล้านล้านบาท แต่หักลบกันแล้วก็ยังติดลบกว่า 16.72 ล้านล้านบาท และรายได้จากการท่องเที่ยวกว่าปีละ 3.06 ล้านล้านบาท จะกลับคืนสู่สภาพปกติเหมือนปี 2562 ก็ยังต้องใช้เวลา ดังนั้น เมื่อเราไม่สามารถทำให้ไม่มีซ่อง - โสเภณีได้ก็ควรจัดระเบียบให้เข้าสู่ระบบกฎหมายที่คุ้มครองผู้ประกอบการ ผู้ประกอบอาชีพดังกล่าวให้เป็นสถานประกอบการที่ชอบด้วยกฎหมาย ให้เป็นโสเภณีที่เป็นอาชีพบริการมีใบประกอบวิชาชีพ มีการควบคุมโรคและป้องกันโรค ถูกสุขอนามัย มีการจ่ายภาษีของสถานประกอบการ มีการจ่ายภาษีรายได้บุคคลที่ประกอบอาชีพดังกล่าว มีกฎหมายรองรับ เข้าสู่ระบบประกันสังคมได้ สามารถกู้เงินได้โดยที่สถาบันการเงินรับรอง ให้เป็นรายได้ที่ชอบด้วยกฎหมาย มีความคุ้มครองตามกฎหมายไม่ให้ถูกเจ้าหน้าที่รัฐกดขี่ ซึ่งจากการประเมินรายได้ของสถานประกอบการและผู้ประกอบอาชีพดังกล่าว น่าจะมีรายได้รวมไม่น้อยกว่า 500,000 ล้านบาทต่อปี โดยสามารถผันเป็นภาษีเข้าสู่ระบบรัฐไม่น้อยกว่า 100,000 ล้านบาทต่อปี
ในการนี้ จึงขอเสนอญัตติดังกล่าวเพื่อให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาตั้งคณะ กมธ.วิสามัญศึกษาการจัดระเบียบซ่อง (อาบอบนวด แผนโบราณ นวดสปา เลานจ์ คาราโอเกะ) โสเภณี Sex Worker (พนักงานนวด เด็กดริงค์ โคโยตี้ ไซด์ไลน์ เด็ก En-EnV- EnUp) ให้ถูกกฎหมาย โดยตนและสมาชิกฯ จำนวน 20 คน ได้ร่วมกันเสนอญัตติดังกล่าวแล้ว และจะเสนอให้ที่ประชุมสภาฯ เลื่อนญัตติดังกล่าวขึ้นมาพิจารณาโดยเร็ว |
|
|
สงวนลิขสิทธิ์โดย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ๑๑๑๑ ถ.สามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐
Call Center ๑๗๔๓ โทรศัพท์ ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๐๐ โทรสาร ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๙๐
e-Mail : webmaster@parliament.go.th [ คลิกดูแผนที่]
|
|
|
|