|
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร |
นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส. จังหวัดสงขลา พรรคภูมิใจไทย แถลงข่าว
๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 4 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2564
|
วันพฤหัสบดีที่ 4 พฤศจิกายน 2564 เวลา 10.55 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส. จังหวัดสงขลา พรรคภูมิใจไทย แถลงข่าวภายหลังที่ได้ยื่นหนังสือต่อนายสุชาติ อุสาหะ ประธานคณะ กมธ.การศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม เรื่อง ขอความเป็นธรรมกรณีข้อพิพาทที่ดินของวัดวังใหญ่ หมู่ที่ 10 อ.นาทวี จ.สงขลา เนื่องด้วยวัดวังใหญ่ เป็นวัดราษฎร์มหานิกาย ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 40 โดยนายไสว ณ พัทลุง เป็นผู้ขออนุญาตสร้างและได้รับหนังสืออนุญาตให้ทำการสร้างวัดที่บ้านวังใหญ่ เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 38 โดยในการสร้างวัดนั้น คณะพุทธบริษัทของวัดได้รวบรวมเงินของชาวบ้านผู้มีจิตเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาเพื่อให้มีการจัดซื้อที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่ดิน (น.ส.3 ก) เลขที่ 5156 เลขที่ดิน 9 ต.นาทวี ของนายทองแก้ว พรหมแก้ว ไว้เป็นเนื้อที่จำนวน 24 ไร่ และได้มีการใช้ ชื่อนายไสว ณ พัทลุง กับนางอำไพ อัมพุกานนท์ ให้มีชื่อแทนในสารบัญจดทะเบียนที่ดินไว้เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 37และต่อมาได้มีการแบ่งแยกจดทะเบียนที่ดินออกเป็น 2 แปลง คือ เป็นที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่ดิน (น.ส.3 ก.) เลขที่ 4644 เลขที่ดิน 10 ต.นาทวี เนื้อที่ 8 ไร่ 2 งาน 50 ตารางวา กับที่ดินตามหนังสือรับรอง การทำประโยชน์ที่ดิน (นส.3 ก) เลขที่ 4156 ที่ดิน 9 ต.นาทวี ซึ่งเป็นที่ดินแปลงเดิม เมื่อวันที่ 30 - 31 มี.ค. 38 และประมาณกลางปี 2550 ได้รับทราบจากนายไสว ณ พัทลุง ว่าที่ดินของวัดทั้งสองแปลงนั้น สำนักงานบังคับคดี จ.สงขลา ประกาศให้มีการขายเนื่องจากนางอำไพ อัมพุกานนท์ ได้ถูกบริษัท ธนบุรีลิสซิ่ง จำกัด ฟ้องเป็นคดีแพ่ง ต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เมื่อปี 2541 คดีถึงที่สุดเมื่อปี 2542 ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ได้มีหมายบังคับคดีตั้งให้เจ้าพนักงาน บังคับคดีทำการยึดทรัพย์ของนางอำไพ อัมพุกานนนท์ รวมทั้งที่ดินของวัดด้วย ต่อมาได้มีการขอให้รังวัดสอบเนื้อที่ที่ดิน ของวัดในที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่ดินเลขที่ 4156 เลขที่ดิน 9 ต.นาทวี ซึ่งเป็นบริเวณที่ตั้งของ สิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ในที่ดินของวัดเพื่อเป็นการยืนยันว่าที่ดินทั้งสองแปลงดังกล่าวเป็นของวัด โดยตั้งแต่ปลายปี 2550 จนถึงปัจจุบัน บริษัท ธนบุรี ลิสซิ่ง จำกัด ไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องและไม่ได้ดำเนินการใด ๆ ในที่ดินของวัดทั้งสอง แปลงเลยเพียงแต่ได้ร้องขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดและอายัดที่ดินของวัดไว้เท่านั้น แต่ด้วยการยึดและอายัดที่ดิน อันเป็นของวัดไว้ดังกล่าวนั้นเป็นเหตุทำให้วัดต้องถูกลิดรอนสิทธิ์เป็นอย่างยิ่ง ทำให้บุคคลทั่วไปขาดความเชื่อถือ และศรัทธาต่อวัด โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา วัดวังใหญ่มีพระภิกษุสงฆ์และสามเณรอยู่ประจำและอยู่จำพรรษาต่อเนื่องกันมาทุกปี อีกทั้งยังใช้เป็นสถานทีประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและประเพณีวัฒนธรรมอันดีงาม ตลอดจนใช้เป็นที่พึ่งทางใจอันช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวพุทธทั่วไป และเป็นศูนย์รวมชุมชนที่ใช้เป็นสถานที่บ่มเพาะคุณธรรม จริยธรรมเพื่อช่วยเป็นเกราะแบ่งเบาปัญหาของสังคม จึงขอความอนุเคราะห์มายังคณะ กมธ. ให้ช่วยแก้ไขในความทุกข์ร้อนของชาวพุทธบริษัทให้ได้รับความเป็นธรรมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นศรัทธาแก่ชาวพุทธบริษัทและประชาชนต่อไป |
|
|
สงวนลิขสิทธิ์โดย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ๑๑๑๑ ถ.สามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐
Call Center ๑๗๔๓ โทรศัพท์ ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๐๐ โทรสาร ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๙๐
e-Mail : webmaster@parliament.go.th [ คลิกดูแผนที่]
|
|
|
|