|
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร |
พิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ประจำปี 2564 ของสภาผู้แทนราษฎร (ต่อ)
๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 1 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2564
|
วันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เวลา 14.00 น. ณ วัดอมรินทราราม วรวิหาร แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ประจำปี 2564 ของสภาผู้แทนราษฎร โดยมี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คณะทำงานทางการเมืองของประธานสภาผู้แทนราษฎร เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร คณะผู้บริหาร และบุคลากรของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ตลอดจนประชาชนในบริเวณใกล้เคียง ร่วมพิธี ในการนี้ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ถวายเครื่องบริวารพระกฐิน และถวายจตุปัจจัยบำรุงพระอาราม จำนวน 1,849,003 บาท แด่พระพิศาลพัฒนกิจ (ปัญญา ปญฺญาวโร) เจ้าอาวาสวัดอมรินทราราม วรวิหาร ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมพิธี ถวายเครื่องไทยธรรมแด่พระสงฆ์ จำนวน 10 รูป โอกาสนี้ ประธานสภาผู้แทนราษฎร มอบทุนการศึกษาและเงินสนับสนุนให้แก่ โรงเรียนพระปริยัติธรรม วัดอมรินทราราม วรวิหาร และโรงเรียนวัดอมรินทรารามโรงเรียนละ 10,000 บาท
จากนั้น ประธานสภาผู้แทนราษฎร และผู้เข้าร่วมพิธีเดินทางไปกราบสักการะหลวงพ่อโบสถ์น้อย ณ วิหารหลวงพ่อโบสถ์น้อย ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นศิลปะแบบสุโขทัย ปางมารวิชัยลงรักปิดทอง หน้าตักกว้าง 4 ศอก 22 นิ้ว สูงตลอดพระรัศมี 7 ศอก 21 นิ้ว โดยเป็นพระพุทธรูปที่พุทธศาสนิกชนนับถือกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาก
ทั้งนี้ กฐินพระราชทานเป็นผ้าพระกฐินที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้ากฐินให้แก่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป นำไปถวายพระสงฆ์จำพรรษา ณ พระอารามหลวงทั่วราชอาณาจักรในกฐินกาลทุกปี สำหรับวัดอมรินทราราม วรวิหารนั้น เป็นวัดที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี โดยในสมัยนั้นมีนามว่า วัดบางว้าน้อย คู่กันกับ วัดบางว้าใหญ่ หรือวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหารในปัจจุบัน ตั้งวัดเมื่อปี 2200 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี 2325 ต่อมา เมื่อพระเจ้าตากสินมหาราช ได้สถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานี วัดบางว้าน้อยก็ได้มีความสำคัญขึ้นเพราะเป็นวัดในกำแพงเมืองฝั่งตะวันตกของกรุงธนบุรี พระองค์จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกขึ้นเป็นพระอารามหลวง เดิมเป็นชั้นตรี ชนิดราชวรวิหาร ต่อมาได้ถูกจัดไว้เป็นชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ตามประกาศลงวันที่ 30 ก.ย. 2458 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานีและราชวงศ์จักรีขึ้น สมเด็จพระเจ้าหลานเธอเจ้าฟ้ากรมหลวงอนุรักษ์เทเวศร์ เป็นกรมพระราชวังบวรสถานภิมุข หรือ กรมพระราชวังหลังได้โปรดสถาปนาวัดขึ้นใหม่หมด ทั้งพระอาราม ทรงสร้างพระอุโบสถพร้อมทั้งพระระเบียงวิหารหลังพระอุโบสถ 2 หลัง พระเจดีย์ด้านหน้าพระอุโบสถ 2 องค์ พระปรางหลังพระอุโบสถ 2 องค์ กำแพงแก้วและศาลารายติดกำแพงแก้ว 6 หลัง หอระฆัง หอไตร ศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ และกุฎีสงฆ์อีกหลายหลัง |
|
|
สงวนลิขสิทธิ์โดย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ๑๑๑๑ ถ.สามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐
Call Center ๑๗๔๓ โทรศัพท์ ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๐๐ โทรสาร ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๙๐
e-Mail : webmaster@parliament.go.th [ คลิกดูแผนที่]
|
|
|
|