ประธานรัฐสภา ให้เกียรติเป็นวิทยากรบรรยายให้แก่ผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตรพัฒนาสุดยอดนักบริหารระดับสูง SMART - CEO รุ่นที่ 5 ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ

วันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน 2564 เวลา 15.00 นาฬิกา ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้เกียรติเป็นวิทยากรบรรยายให้แก่ผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตรพัฒนาสุดยอดนักบริหารระดับสูง SMART - CEO รุ่นที่ 5 ในโครงการปรัชญาดุษฎีบัณฑิตการบริหารการพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดยมี นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และ นายปรีชา ชวลิตธำรง ที่ปรึกษาประธานรัฐสภา ร่วมรับฟังการบรรยาย ในการนี้ พล.ร.อ.ประเสริฐ บุญทรง กรรมการข้าราชการรัฐสภา ผู้ทรงคุณวุฒิฝ่ายสภาผู้แทนราษฎร ร่วมรับการอบรม โดยนายชวน หลีกภัย ได้กล่าวบรรยายใจความตอนหนึ่งว่า ผู้นำที่มีความซื่อสัตย์สุจริต ถูกต้อง และชอบธรรมจะทำให้เป็นผู้นำ ที่มีความน่าเชื่อถือ สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ตามและได้รับการยอมรับ ทำให้ผู้อื่นพร้อมที่จะปฏิบัติตามในฐานะที่เป็นผู้นำและประสบความสำเร็จ และได้กล่าวถึง การตระหนักและสำนึกในสิทธิและหน้าที่ โดยอัญเชิญพระบรมราโชวาทในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ได้พระราชทานไว้ เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 52 ว่า "ชาวไทยทุกหมู่เหล่า ทำความเข้าใจในหน้าที่ของตนให้กระจ่าง แล้วตั้งจิตตั้งใจให้เที่ยงตรง หนักแน่น ที่จะมาปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด" และพระบรมราโชวาท เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 53 ว่า "คนไทยทุกหมู่เหล่าควรทำความเข้าใจในหน้าที่ของตนให้กระจ่าง แล้วตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด มีความไม่ประมาท และมีความมีสติรู้ตัวอยู่เสมอ..." ซึ่งจะเห็นได้ว่าพระองค์ท่านได้เน้นย้ำในเรื่องของความรับผิดชอบและให้ทุกคนตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด อีกทั้งยังเน้นย้ำในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต โดยรัฐสภาได้จัดโครงการบ้านเมืองสุจริต ที่มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และเป็นสิ่งที่สังคมไทยคาดหวัง เพราะการได้มาซึ่งสิทธิเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตยนั้น จะต้องได้มาด้วยความชอบธรรมหรือได้มาด้วยความสุจริต จึงจำเป็นต้องสร้างความตระหนักรู้ให้แก่เยาวชนที่จะเติบโตขึ้นเป็นอนาคตของชาติเกี่ยวกับความสำคัญของการเมืองที่ยึดหลัก ธรรมาภิบาล อันประกอบด้วย หลักนิติธรรม หลักคุณธรรม หลักความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม หลักความรับผิดชอบ และหลักความคุ้มค่า ตลอดจนหลักความไม่เกรงใจ ซึ่งเป็นต้นทางของการสร้างบ้านเมืองสุจริต โดยการสร้างสำนึกรู้เรื่องความซื่อสัตย์สุจริตนั้นควรปลูกฝังกันตั้งแต่ยังเด็ก โดยเฉพาะกับเยาวชนเพราะเป็นช่วงก่อนที่เยาวชนจะเข้าสู่สังคมการทำงาน เยาวชนเหล่านี้จึงจำเป็นต้องมีภูมิคุ้มกันทางสังคมในการสำนึกรู้เรื่องการซื่อสัตย์สุจริต ทั้งนี้ จึงขอให้ทุกท่าน ยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริตและทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดเพื่อเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองและประเทศชาติต่อไป