วันศุกร์ที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๐.๑๕ นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น ๑ อาคารรัฐสภา
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวสรุปการอภิปราย
ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ว่า ในช่วง ๒ วันที่ผ่านมานั้น
การชี้แจงของรัฐบาลโดยเฉพาะกระทรวงการคลัง ยังไม่มีความชัดเจน
ในขณะที่การอภิปรายของฝ่ายค้าน ได้เตรียมการมาเป็นอย่างดี มีการอภิปรายอย่างเจาะจง
และตรงประเด็น
ทั้งนี้ ได้กล่าวถึงการจัดทำงบประมาณของรัฐบาลในช่วง ๗ ปีที่ผ่านมา ได้จัดทำงบขาดดุล
มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากจัดทำงบประมาณเช่นนี้จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศ
ที่สุ่มเสี่ยงอยู่แล้วอาจถึงขั้นล้มละลายและอาจต้องกู้เงินจากกองทุนการเงิน
ระหว่างประเทศ หรือ IMF ได้ ดังนั้น ในช่วงปี ๒๕๖๔ ถึง ๒๕๖๕
จะเป็นช่วงที่น่าจับตามองเพราะการกู้เงินของรัฐบาลสูงถึงร้อยละ ๕๘
และเหลืออีกเพียงร้อยละ ๒ ก็จะเต็มวงเงินในการกู้แล้ว ขณะที่การจัดทำงบประมาณปี ๒๕๖๔
ไม่ได้สนับสนุนให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจมากนักในปีนี้ และปีต่อไปก็จะทำให้รัฐบาล
ไม่สามารถกู้เงินได้อีก
นอกจากนี้ การที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้ระบุว่าเศรษฐกิจ ที่รัฐบาลคาดการณ์ปี ๒๕๖๔ จะเติบโตประมาณร้อยละ ๕ นั้นยังมีความไม่แน่นอน
และมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ระบุว่าอาจจะติดลบ
ถึงร้อยละ ๘.๑ ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนเตรียมรับมือกับการเกิดสึนามิทางเศรษฐกิจ
ที่คล้ายกับช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ โดยเฉพาะข้าราชการทั้งประเทศ
อาจตกงานกว่าครึ่ง เพราะเคยมีตัวอย่างแล้วในช่วงที่ประเทศไม่มีเงิน
และไม่สามารถกู้ได้ ซึ่งในยุคนั้นจะใช้ "ดุลข้าราชการ" คือการเลิกจ้าง ลดองค์กรของรัฐ
และลดกำลังพลทหาร เพื่อลดต้นทุนงบประมาณรายจ่ายลง ดังนั้นหากรัฐบาลยังคง กู้เงินและจัดทำงบประมาณเช่นนี้ประเทศอาจจะต้องกลับไปสู่ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒
สำหรับการอภิปรายในวันนี้ พรรคฝ่ายค้านจะสรุปจบในเวลาไม่เกิน ๒๒.๐๐ นาฬิกา
และในช่วงบ่ายของวันนี้คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านจะประชุมหารือ เพื่อกำหนดทิศทางการลงมติ ทั้งนี้ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ จะอภิปรายในเวลา ๑๖.๐๐ น. |