วันพุธที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ เวลา ๑๔.๓๐ นาฬิกา ณ จุดแถลงข่าว ชั้น ๑ อาคารรัฐสภา นายชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวกรณีการใช้คำสั่ง คสช. ที่ ๗๒/๒๕๕๙ เรื่อง การแก้ไขปัญหาผลกระทบจากการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำ โดยระงับการอนุญาตให้สำรวจ และทำเหมืองแร่ทองคำ และการประกอบโลหกรรมแร่ทองคำ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อ บมจ.อัครา รีซอร์สเซส ผู้ประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำชาตรี ในพื้นที่รอยต่อ จ.พิจิตร จ.พิษณุโลก และ จ.เพชรบูรณ์ จนนำไปสู่ข้อพิพาทกับบริษัทผู้ลงทุนจากต่างประเทศ (ออสเตรเลีย) ซึ่งขณะนี้อยู่ใน ระหว่างการรอฟังคำชี้ขาดจากศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศที่ประเทศสิงคโปร์ หลังได้รับฟัง ข้อมูลจากคู่กรณีเมื่อวันที่ ๓ - ๑๒ ก.พ. ที่ผ่านมา คาดการณ์ว่าคำชี้ขาดของศาลอนุญาโตจะสร้าง ผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อประเทศไทย เนื่องจาก บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดตเต็ด ลิมิเต็ด ประเทศออสเตรเลีย บริษัทแม่ของ บมจ.อัครา รีซอร์สเซส ได้ฟ้องร้องรัฐบาลไทยว่าละเมิดข้อตกลง การค้าเสรีไทย - ออสเตรเลีย (TAFTA) ตามบทบัญญัติในส่วนที่เกี่ยวกับการยึดโอนกิจการของเอกชน ไปเป็นกิจการของรัฐซึ่งเป็นการจงใจใช้อำนาจที่ไม่เป็นไปตามข้อผูกพันที่มีต่อกันตามสนธิสัญญา กรุงเวียนนา ค.ศ. ๑๙๖๙ (Vienna Convention on Law of Treaties) จะเข้าลักษณะการกระทำผิดของรัฐ (Wrongful act of State) ตามกฎหมายระหว่างประเทศ ส่งผลให้ประเทศไทย ไม่อาจรอดพ้นจาก ความผิดตามหลักความรับผิดชอบแห่งรัฐ (State Responsibility) โดยต้องชดใช้ค่าเสียหาย ค่าชดเชย ความเสียหาย ค่าเสียโอกาส และข้ออ้างสิทธิอื่น ๆ อย่างไม่มีทางเลือก ดังนั้น จึงขอเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในขณะที่มีการออกคำสั่ง คสช. ฉบับดังกล่าว รับผิดชอบโดยการลาออก เพื่อเปิดโอกาสให้รัฐบาลชุดใหม่ที่น่าเชื่อถือเข้ามา แก้ปัญหาดังกล่าว และลดความเสียหาย พร้อมทั้งเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาโดยเร็วที่สุด
|