เร่งคุมสินค้าออนไลน์เถื่อน สคบ.นัดถกหาทางล้อมคอก ประสานแบงก์ชาติเข้มบัญชี
Source - เดลินิวส์ (Th)

Tuesday, July 17, 2018  04:39
22599 XTHAI XECON MIDD DAS V%PAPERL P%DND

          นายพิฆเนศ ต๊ะปวง รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า ได้นัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือถึงแนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหาการลักลอบขายสินค้าอันตรายผ่านสื่อออนไลน์โดยที่ประชุมเห็นตรงกันว่า จำเป็นต้องหามาตรการออกมาดูแลเรื่องดังกล่าวอย่างเร่งด่วนโดย สคบ.จะมีการจัดระบบการตรวจสอบข้อความต่าง ๆ ในสื่อออนไลน์ทั้งหมดว่ามีผู้ใดที่ลักลอบนำสินค้าอันตรายที่ สคบ.เคยออกประกาศห้ามขายมาวางขายในสื่อออนไลน์บ้าง จากนั้นจึงประสานงานกับทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมทำการปิดระบบและลบข้อความทิ้ง พร้อมกันนี้ยังได้มีการจัดตั้งทีมเจ้าหน้าที่ สคบ.เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวด้วย
          สำหรับการควบคุมสินค้าดังกล่าว เป็นเพราะที่ผ่านมา สคบ.ได้ตรวจสอบพบว่าปัจจุบันมีการสั่งซื้อสินค้าที่อาจเป็นอันตรายเช่นเดียวกับสินค้าที่มีคำสั่งห้ามขาย หรือสินค้าที่ผิดกฎหมายแพร่หลายมาก ขึ้นในกลุ่มเยาวชน เป็นผลมาจากการลักลอบขายสินค้าผ่านทาง อินเทอร์เน็ต เฟซบุ๊ก ไลน์ อินสตาแกรม โดยใช้โทรศัพท์ในการติดต่อซื้อ-ขายมีการชำระเงินค่าสินค้าผ่านทางบัญชีต่าง ๆ และจัดส่งสินค้าผ่านทางระบบไปรษณีย์หรือบริษัทขนส่งของเอกชน ขณะที่การบังคับใช้กฎหมายโดยเจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภคยังไม่สามารถดำเนินการได้ทัน เพราะการซื้อ-ขายสินค้าประเภทนี้มีความซับซ้อน และไม่สามารถแก้ปัญหาได้หมดจึงต้องร่วมกับทุกหน่วยงานหาทางป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นต่อไป
          นายพิฆเนศ กล่าวว่า ในเบื้องต้น สคบ.จะเน้นเรื่องการควบคุมสินค้าที่ไม่ปลอดภัย อันตรายสินค้าที่ห้ามขายก่อนเป็นอันดับแรก ส่วนสินค้า อื่น ๆ เช่น การสั่งซื้อสินค้าแล้วไม่ตรงละเมิดลิขสิทธิ์สินค้าไม่มีคุณภาพ หรือไม่เป็นไปตามสัญญา จะเข้าไปดูในระยะต่อไป เพราะต้องการกวาดล้างสินค้าประเภทนี้ออกไปจากระบบให้หมด พร้อมกันนี้ยังได้ขอความร่วมมือกับบริษัทส่งพัสดุทั้งหมดได้มีการแจ้งข้อมูลผ่านระบบ และสามารถอายัดสินค้าได้หากพบว่าสินค้านั้นมีความน่าสงสัยหรืออาจเข้าข่ายสินค้าที่ผิดกฎหมาย
          ขณะเดียวกันยังเตรียมประสานกับ ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อ ขอความร่วมมือให้ช่วยตรวจสอบการทำธุรกรรมทางบัญชีของผู้ที่ทำการซื้อ-ขายโอนเงิน หากพบว่ามีความผิด อาจนำไปสู่การอายัดเงินในบัญชีธุรกรรมและในกรณีที่มีการซื้อ-ขายสินค้าผ่านทางโทรศัพท์ก็เตรียมประสานข้อมูลกับทางผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือหาทางเข้าไปตรวจสอบ การซื้อขายสินค้าผ่านทางโทรศัพท์ หรือไลน์ ด้วย
          "ในการเข้าไปตรวจสอบ สคบ.จะขอความร่วมมือจากทุกหน่วยงานโดยเน้นไปที่เรื่องของข้อมูลในระบบไอทีทั้งหมด เพื่อนำเข้ามาจัดการเพื่อจะแก้ปัญหาการลักลอบขายสินค้าต่าง ๆ ที่ผิดกฎหมายได้ นอกจากนี้ยังประสานส่งข้อมูลให้กับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ สตช. ให้
          ดำเนินการจับกุมผู้ที่ขายสินค้าที่มีความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่เรื่องนี้ก็มีข้อจำกัดอยู่เรื่องหนึ่งที่สำคัญและต้องหาทางแก้ คือ กรณีของสินค้าที่ผู้ขายเปิดเว็บไซต์อยู่ในต่างประเทศหากจะดำเนินการปิดเว็บไซต์คงเป็นเรื่องลำบาก จึงต้องประสานขอข้อมูลมาก่อนว่าจะจัดการเรื่องนี้ได้อย่างไรบ้าง"
          ก่อนหน้านี้ สคบ.เคยออกคำสั่งเกี่ยวกับการ ห้ามขายสินค้าอันตรายมาแล้วหลายฉบับแต่ก็ยังพบว่ามีการลักลอบขายอยู่อย่างแพร่หลายตามอินเทอร์เน็ต และ ช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก เช่น บารากู่ บารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า และตัวยาบารากู่และตัวยาของบุหรี่ไฟฟ้า ที่สคบ.ประกาศห้ามขายหรือห้ามให้บริการไปแล้วเช่นเดียวกับสินค้าประเภทอุปกรณ์จัดฟันแฟชั่น ซึ่งหากผู้ใดฝ่าฝืนถือว่ามีความผิดมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ.

          บรรยายใต้ภาพ 
          พิฆเนศ ต๊ะปวง
--จบ--

          --เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 18 ก.ค. 2561 (กรอบบ่าย)--