พ่อโวยทหารทำลูกชายดับจับกุมเกินเหตุตร.โต้ดองคดี
Source - ข่าวสด (Th)
Wednesday, May 09, 2018 04:55
64049 XTHAI XOTHER XFRONT MIDD DAS V%PAPERL P%KSD
พ่อวัย 65 ปี ชาวเรณูนคร ร้องเรียนเหตุลูกชายวัย 36 ปี ป่วยจิตคลุ้มคลั่ง ทหารมาช่วยจับกุม แต่กลับทำเกินกว่าเหตุยิงใส่ 3 นัด คว้าท่อนไม้ทุบหัวซ้ำจนตาย ผ่านมา 3 สัปดาห์คดีไม่คืบ ขณะที่ ผบก.นครพนมเผยทหารที่ก่อเหตุ 2 นายเข้ามอบตัวแล้ว ยศ 'จ.ส.อ.' แจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตาย อ้างป้องกันตัว พร้อมแจ้งข้อหาฝ่ายผู้ตาย ทำร้ายผู้อื่น พกพาอาวุธมีด ต่อสู้ขัดขวาง ส่วน ผบ.มทบ.210 ต้นสังกัด ยันไม่ได้นิ่งนอนใจ นัดพูดคุยเยียวยาชดใช้ แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ ชี้เป็นเหตุสุดวิสัย
เมื่อวันที่ 8 พ.ค. นายดุสิต ถานัน อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ 15 บ้านชลประทาน ต.โคกหินแฮ่ อ.เรณูนคร จ.นครพนม นำเอกสาร หลักฐานเข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน ขอความเป็นธรรมกรณีนายพัฒนพงษ์ ถานัน อายุ 36 ปี ลูกชายถูกทหารสังกัดมณฑลทหารบก (มทบ.) ที่ 210 เป็นชุดรักษาความสงบเรียบร้อย อ.เรณู นคร ใช้อาวุธปืนยิงและทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 เม.ย. และหวั่นเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
นายดุสิตกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เมื่อเช้าวันที่ 16 เม.ย.ลูกชายมีปากเสียงทะเลาะกับหลานสาวอายุ 17 ปี ผู้ตายคว้ามีดหวัง จะทำร้าย และคมมีดถูกที่บริเวณขา เมื่อตนกลับมาถึงบ้านและทราบเหตุการณ์จึงต่อว่าดุด่าลูกชาย พร้อมหารือเพื่อนบ้านและผู้นำชุมชนว่าอยากนำตัวลูกชายไปรักษาอาการทางจิต เพราะกลัวว่าจะมีอาการคลุ้มคลั่งไปมากกว่านี้ และหลังก่อเหตุก็วิ่งหลบหนีไป
พ่อผู้ตายกล่าวว่า ระหว่างนั้นมีผู้แนะนำให้แจ้งทหารมาช่วยควบคุมตัว ส่วนลูกชาย วิ่งหนีไปทุ่งนา คาดว่าคงเกรงกลัวความผิดและเครียด จากนั้นทหาร 3 นายพยายามเข้าจับกุมตัว แต่ลูกชายพยายามต่อสู้ ทหาร 1 ใน 3 นาย จึงชักอาวุธปืนพกยิงใส่ 3 นัด กระสุนถูก ขาขวา 1 นัดทะลุ ลูกชายล้มลง ทหารใช้ ท่อนไม้ทุบตีศีรษะจนแน่นิ่ง ขณะที่ลูกชาย อีกคนพยายามวิ่งไปช่วยเหลือแต่ไม่ทัน ทหารจึงนำตัวลูกชายส่งร.พ.เรณูนคร แต่เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้แล้ว
นายดุสิตกล่าวว่า หลังเกิดเหตุตำรวจ สภ. นาโดน และแพทย์ร.พ.เรณูนคร ชันสูตรพลิกศพ พบว่าที่บริเวณขาขวาถูกยิงด้วยกระสุนปืน ไม่ทราบขนาด 1 นัด บริเวณศีรษะถูกทุบตีด้วยของแข็งจนยุบ อาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิต ตนและญาติพี่น้องไม่พอใจ จึงปรึกษากันว่าจะ ไม่ยอมฌาปนกิจศพจนกว่าต้นสังกัดของทหาร จะออกมารับผิดชอบ โดยไปแจ้งความร้องทุกข์ ที่ สภ.นาโดน เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ผ่านมานาน 3 สัปดาห์ยังไม่มีความคืบหน้าคดี
พ่อผู้ตายกล่าวอีกว่า นายพัฒนพงษ์เป็นลูกชายคนโตในจำนวน 3 คน จบปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เมื่อพ.ศ.2550 ทำงานบริษัทเอกชนที่กรุงเทพฯ ได้เงินเดือนกว่า 20,000 บาท ส่งเงินมาให้พ่อแม่ เป็นความหวังของครอบครัว เมื่อ 5 ปี ที่แล้วลูกชายถูกหลอกไปทำงานที่ประเทศฟินแลนด์ อยู่ได้แค่ 3 เดือนจึงถูกส่งกลับ ทำให้เกิดความเครียด เพราะจริงจังกับชีวิต มีอาการซึมเศร้า จนต้องกินยารักษาอาการทางจิต กระทั่งเกิดเหตุสลด
"หลังผมไปแจ้งความตำรวจเกรงเรื่อง จะเงียบ ต่อมามีทหารที่เป็นคนก่อเหตุเสนอเงินช่วยเหลือ 100,000 บาท แต่ผมไม่รับ ก่อนนำศพลูกแช่โลงเย็นไว้ที่วัด จนกว่าจะมีคนออกมารับผิดชอบ จึงมาร้องขอความเป็นธรรมเพื่อให้ดำเนินคดีถึงที่สุด คนทำผิดต้องได้รับผิด ถึงแม้จะเสนอเงินทองมากแค่ไหนก็ไม่คุ้มกับการสูญเสีย ที่สำคัญคนกระทำเป็นทหาร และไม่เห็นมารับผิดชอบเลย" นายดุสิตกล่าวทั้งน้ำตา
ด้าน พ.ต.ท.วิเชียร โพธิจันทร์ สว.หน.สภ. นาโดน กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ระหว่าง การสอบสวน อาวุธปืนที่ทหารใช้ก่อเหตุเป็นอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 ม.ม. ส่วนผลชันสูตรบาดแผลนั้นกำลังรอผลจากกองพิสูจน์หลักฐาน ภาค 4 จ.ขอนแก่น
ขณะที่ พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.นครพนม กล่าวว่า ตั้งคณะทำงานใน คดีนี้ และแจ้งข้อกล่าวหากับทหารที่ก่อเหตุไปแล้ว ทราบชื่อ จ.ส.อ.กิตติศัพท์ อินทร์ติยะ อายุ 22 ปี และ จ.ส.อ.ธีรวัฒน์ ไชยขัน อายุ 29 ปี สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3 เข้ามอบตัวแล้วตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย. ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย แต่ผู้ต้องหาให้การว่าเป็น การป้องกันตัว ตำรวจจึงแจ้งข้อหาฝ่ายผู้ตาย ทำร้ายผู้อื่นทำให้เสียทรัพย์ พกพาอาวุธมีดไปในเมือง หรือทางสาธารณะ และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน
ส่วน พล.ต.สมชาย ครรภาฉาย ผบ.มทบ.210 กล่าวว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจ ไปพบปะพูดคุยกับพ่อแม่ผู้ตายแล้ว มอบเงินช่วยเหลือ ค่าทำศพให้จำนวนหนึ่ง และวันที่ 18 เม.ย. ผู้บังคับกองพันต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติ หน้าที่ในวันเกิดเหตุ ก็เข้าไปดูแลครอบครัว ผู้เสียหาย และเจ้าหน้าที่จาก มทบ.210 ไปดูแลงานศพทุกวัน จนกระทั่งถึงวันเผาศพในวันที่ 22 เม.ย. แต่เมื่อถึงเวลาเผาจริง ญาติกลับไม่ทำ พิธี
ผบ.มทบ.210 กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังติดต่อพ่อแม่ผู้ตายนัดพูดคุยเรื่องชดใช้เยียวยา ในวันที่ 3 พ.ค. แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ นัดคุยกันอีกครั้งวันที่ 13-14 พ.ค.นี้ ที่ผ่านมาหน่วยเหนือกำชับมาตลอด โดยเน้นย้ำให้ทหารเข้าไปช่วยเหลือในฐานะผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ส่วนการใช้อาวุธก็ควรละเว้น นอกจากมีความจำเป็นจริงๆ กรณีนี้เป็นเหตุสุดวิสัย เป็นเหมือน ลักษณะการต่อสู้กัน ผู้บังคับบัญชาไม่ได้ นิ่งนอนใจพยายามเข้าไปช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียหายมาโดยตลอด
บรรยายใต้ภาพ
จี้คดี - นายดุสิต ถานัน ชาวเรณู นคร จ.นครพนม ร้อง ขอความเป็นธรรมกรณีนายพัฒนพงษ์ ถานัน ลูกชาย ถูกทหารซึ่งเข้าระงับเหตุทะเลาะวิวาท ใช้ปืนยิงและทำร้ายเสียชีวิต ระบุทำเกินกว่าเหตุ เมื่อวันที่ 8 พ.ค.
--จบ--
--ข่าวสด ฉบับวันที่ 10 พ.ค. 2561 (กรอบบ่าย)--