|
|
|
ปฏิทินกิจกรรม |
« |
พฤศจิกายน 2567 |
» |
อา. |
จ. |
อ. |
พ. |
พฤ. |
ศ. |
ส. |
| | | | |
1 |
2 |
3 |
4 |
5 |
6 |
7 |
8 |
9 |
10 |
11 |
12 |
13 |
14 |
15 |
16 |
17 |
18 |
19 |
20 |
21 |
22 |
23 |
24 |
25 |
26 |
27 |
28 |
29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
ดูปฏิทินทั้งหมด |
|
|
|
|
|
e-Mail@parliament.go.th |
|
|
|
|
|
วีดิทัศน์สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ |
|
|
|
|
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ |
รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ คนที่หนึ่ง ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "ภารกิจการขับเคลื่อนการปฏิรูป ๑๑ ด้านต่อคณะกรรมการเตรียมการปฏิรูปประเทศและเตรียมการยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี"
๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 23 ๏ฟฝ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2560
|
วันพฤหัสบดีที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๖๐ เวลา ๐๙.๐๐ นาฬิกา ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ คนที่หนึ่ง ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "ภารกิจการขับเคลื่อนการปฏิรูป ๑๑ ด้านต่อคณะกรรมการเตรียมการปฏิรูปประเทศและเตรียมการยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี" ในงานสัมมนาวิชาการสมาคมพนักงานเทศบาลแห่งประเทศไทย เรื่อง ยุทธศาสตร์ชาติและทิศทางการขับเคลื่อนการปฏิรูปองค์กรปกครองท้องถิ่น จัดโดย สมาคมพนักงานเทศบาลแห่งประเทศไทย ร่วมกับ สำนักงานเทศบาลเมืองมหาสารคาม และมหาวิทยาลัยศิลปากร นายอลงกรณ์ กล่าวถึงศักยภาพของประเทศ ที่ยิ่งใหญ่กว่าที่ใครคิด เราต้องภูมิใจในศักยภาพของประเทศ เชื่อมั่นและมั่นใจในประเทศ มองในมุมสว่างด้านดีของประเทศ เพื่อก้าวไปสู่ประเทศที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนมีสันติสุข การขับเคลื่อนประเทศไทยต่อจากนี้ไปภายใต้การทำงานกันอย่างใกล้ชิดระหว่างแม่น้ำ ๕ สาย ไม่ว่าจะเป็นคสช. รัฐบาล สปท. สนช. และ กรธ. จะมีทิศทางที่แน่นอน มีแบบแผนที่ชัดเจนเ เดินตามโรดแมปและแผนยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี เพื่อพาประเทศไปสู้เป้าหมายของการเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ประชาชนมีรายได้เฉลี่ยในระดับสูง ก้าวข้ามจากประเทศรับจ้างผลิตสู่การเป็นประเทศที่ใช้การพัฒนานวัตกรรมในการขับเคลื่อนประเทศ โดยใช้ ๖ โมเดลเศรษฐกิจกระแสใหม่ เน้นการต่อยอด ๕ อุตสาหกรรมเดิมที่มีศักยภาพ (5 First S - curve) ร่วมกับเติมเต็มการพัฒนาคลัสเตอร์อุตสาหกรรมแห่งอนาคต (5 New S - curve) การปฏิรูปประเทศทั้ง ๑๑ ด้าน จะครอบคลุมการแก้ปัญหาของประเทศทุกด้านอย่างยั่งยืน เพื่อแก้ ๖ โจทย์ใหญ่ คือ เพื่อให้มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความเหมาะสมกับสภาพสังคมไทย เพื่อให้มีการเลือกตั้งที่สุจริตและเป็นธรรม มีกลไกป้องกัยและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบที่มีแระสิทธิภาพ ขจัดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจและสังคมเพื่อการพั ฒนาอย่างยั่งยืน ทำให้กลไกของรัฐสามารถให้บริการประชาชนได้อย่างทั่วถึง สะดวก รวดเร็ว มีการบังคับใช้กฏหมายอย่างเคร่งครัดและเป็นธรรม การปฏิรูปประเทศเป็นเรื่องของทุกคน เพราะประเทศไทยเป็นของทุกคน และทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการปฏิรูปประเทศ การปฏิรูปประเทศจึงจะสำเร็จได้ การปฏิรูปเริ่มต้นได้ที่ตนเอง ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะต้องมาร่วมมือกันปฏิรูปประเทศ เพื่ออนาคตที่ดีของประเทศ ตลอดระยะเวลากว่า ๒ ปี ของการปฏิรูปประเทศ มีข้อบ่งชี้หลายประการ ที่แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยดีขึ้น แข็งแรงขึ้น เช่น - ธนาคารโลกปรับตัวเลขประเมินอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยปี ๒๕๕๙ ดีขึ้น -ได้รับการจัดอันดับจาก IMD ว่ามีขีดความสามารถในการแข่งขันปี ๒๕๕๙ ของไทยดีขึ้น แซงเกาหลีใต้เป็นครั้งแรก -ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นประเทศที่ดีที่สุดอันดับที่ ๒๑ ของโลก และเป็นอันดับ ๕ ของเอเชีย - ได้รับการจัดอันดับกับ CNN ยกกรุงเทพฯ เป็นเมือง street food ที่ดีที่สุดของโลก มีอาหารริมทางที่ดีที่สุดในโลก ๒ ปีซ้อน และ World Street Food Congress ยกให้หอยทอดติด ๑ ใน ๓ อาหารขึ้นชื่อมากที่สุด -การเติบโจของ GDP ปี ๒๕๕๙ เติบโตร้อยละ ๓.๒ ด้านศักยภาพในการผลิตและการส่งออกสินค้าและบริการนั้น ประเทศไทยติดอันดับ ๑ ใน ๑๐ ของโลก ในสินค้าและบริการหลายด้าน อาทิ เป็นผู้ผลิตและส่งออกปลาทูน่ามากเป็นอันดับ ๑ ของโลก ส่งออกข้าวในปีการผลิต ๒๕๕๖/๒๕๕๗ เป็นอันดับ ๑ ของโลก ส่งออกยางพาราเป็นอันดับ ๑ ของโลก ในปีการผลิต ๒๕๕๔ - ๒๕๕๖การส่งออกของไทยดีขึ้น ในเดือนธันวาคม ๒๕๕๙ ขยายตัวถึงร้อยละ ๖.๒ เป็นบวกในคนั้งแรกในรอบ ๔ ปี เชื่อว่าการส่งออกไทยจะสามารถกลับมาขยายตัวได้ตามศักยภาพที่ร้อยละ ๕ เมื่อสถานการณ์โลกปรับตัวกลับเข้าสู่ปกตอในระยะต่อไป ล่าสุดสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ได้เผยผลสำรวจดัชนีความทุกข์ยาก (misery index) ประจำปี ๒๐๑๗ พบว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความทุกข์ยากน้อยที่สุดในโลก เป็นปีที่สามติดต่อกัน เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งบ่งชี้ว่า ประเทศไทยยิ่งใหญ่กว่าที่ใครคิด และนี้ก็คือศักยภาพของประเทศ ในการก้าวไปเป็นประเทศไทย ๔.๐ ขณะนี้การปฏิรูปประเทศเข้าสู่โรดแมประยะที่สองโดยจะสานต่อการปฏิรูปในโรดแมประยะที่หนึ่ง ซึ่งมีเป้าหมายคือ ในปี ๒๕๖๐ จะปฏิรูป ๒๗ วาระเร่งด่วน ๔๒ ประเด็น ๕ ด้านได้แก่ ด้านกลไกภาครัฐ ด้านเครื่องมือพัฒนาฐานราก ด้านเศรษฐกิจอนาค ด้านคน และด้านโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้ง พ.ร.บ. เพื่อการปฏิรูปให้แล้วเสร็จ ขณะนี้มีกฎหมายเพื่อการปฏิรูปอยู่ในขั้นตอนการนำส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติบรรจุในระเบียบวาระเพื่อพิจารณา กฎหมายที่เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ๘ ฉบับ และมีกฎหมาย ที่ส่วนราชการกำลังดำเนินการ จำนวน ๓๖ ฉบับ ขณะนี้ สปท. นำส่งแผนปฏิรูปประเทศไปยังระฐบาลแล้วจำนวน ๑๔๖ เรื่อง เหล่านี้ล้วนแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของการปฏิรูปประเทศมีความคืบหน้าในการปฏิรูปประเทศ และ ๒๗ วาระปฏิรูปเร่งด่วน ๔๒ ประเด็น จะสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จในปี ๒๕๖๐ ตามเป้าหมายที่ได้วางไว้อย่างแน่นอน การปฏิรูปประเทศคือการซ่อม เสริม สร้าง ยกเครื่องประเทศใหม่ ก้าวข้าววิกฤติในอดีตที่ผ่านมา ก้าวขึ้นไปประเทศไทยยุคใหม่ คือ ประเทศไทย ๔.๐ ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี |
|
|
สงวนลิขสิทธิ์โดย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ถ.ประดิพัทธ์ แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร 0 2244 2500 e-Mail : webmaster@parliament.go.th |
|
จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ |
|
(เริ่มนับ 5 ต.ค. 58) |
|
|
|