สนช. ลงลพบุรี แจงประชามติ ชี้โพรง นปช. ไลฟ์เดี่ยวได้ถ้าไม่ปลุกระดม
Source - เว็บไซต์ไทยรัฐ (Th)
Saturday, June 25, 2016 22:55
25092 XTHAI XPOL POL V%NETNEWS P%WTR
สนช.ลงลพบุรี ส.กำนัน-ผญบ. ร้องค่าแรงน้อยกว่าค่าแรงขั้นต่ำ "คำนูณ" หยอดลูกอ้อนแจงคำถามพ่วง "พีระศักดิ์" ชี้โพรง นปช. ไลฟ์เดี่ยวได้ถ้าไม่ปลุกระดม เชียร์ "บิ๊กตู่" ใช้อำนาจถ้าศาลฟันทิ้ง ม.61 วรรค 2
เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 59 ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธาน สนช.คนที่ 2 นำทีม สนช. ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี สปท. กรธ. ร่วมลงพื้นที่ จ.ลำพูน ตามโครงการ "สนช.พบประชาชน" รับฟังปัญหา เผยแพร่คำถามพ่วงประชามติ โดยมีประชาชน เอกชน เข้าร่วมกว่า 400 คน ขณะที่ภาพรวมมีปัญหาที่น่าสนใจ อาทิ นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้าน แจ้งปัญหาเรื่องเงินเดือนที่ได้น้อยกว่าค่าแรงขั้นต่ำ นายพีระศักดิ์ ชี้แจงว่า รัฐบาลชุดนี้ใจกว้างเรื่องค่าตอบแทนเป็นปัญหาโลกแตก เชื่อว่า นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ที่เป็นทหาร ถ้าใช้งานลูกน้องจะดูแลตอบแทน ยุคนี้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มีบทบาทมากขึ้น ถ้าทำงานแล้วมีผลเชิงประจักษ์ เชื่อว่าเรื่องค่าตอบแทนก็อยู่ในความคิดของนายกฯ
ด้าน นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิก สปท. กล่าวชี้แจงเรื่องคำถามพ่วงประชามติ ว่า เหตุผลการตั้งคำถามนี้ เพื่อถามประชาชนตรงๆ ว่า อยากให้ ส.ว.ชุดแรก ในช่วงเปลี่ยนผ่าน 5 ปี ที่ทำหน้าที่เปรียบเสมือนองครักษ์พิทักษ์งานปฏิรูปตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ร่วมมีอำนาจร่วมเลือกนายกฯ กับ ส.ส. ด้วยหรือไม่ เพื่อเป็นหลักประกันความสำเร็จในการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศเพิ่มขึ้น
สำหรับกรณีที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จัดเฟซบุ๊กไลฟ์แสดงจุดยืนรับร่างรัฐธรรมนูญ นายพีระศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้ นายสุเทพ ทำคนเดียวหรือไม่ ถ้าทำคนเดียวก็ทำได้ ไม่ขัดคำสั่ง คสช. ที่ห้ามชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน ถือเป็นเสรีภาพตามมาตรา 7 ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ แต่ต้องไม่พูดจูงใจให้ใคร ให้ไปใช้สิทธิ์รับหรือไม่รับ ไม่เช่นนั้นจะถือว่าเข้าข่ายชี้นำ ผิดมาตรา 61 วรรคสอง
เมื่อถามว่าเหตุใด นปช. จึงตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติไม่ได้ นายพีระศักดิ์ ตอบว่า คงทำไม่ได้ เพราะ คสช. มองว่าการตั้งศูนย์ดังกล่าวเข้าข่ายการชุมนุมเกิน 5 คน ชัดเจน ถ้ามีคนทำผิดแล้วรัฐไม่ดำเนินการจะถือเป็นการละเว้น ส่วนคนที่มองว่าทำไม นายสุเทพ ทำได้ แต่แกนนำ นปช. ทำไม่ได้ คงเป็นเรื่องเข้าใจผิด รัฐมีหน้าที่รักษากฎหมาย ต้องไม่ 2 มาตรฐาน เมื่อถามย้ำว่า หากต่อไปแกนนำ นปช. หรือฝ่ายอื่นๆ จะออกมาเฟซบุ๊กไลฟ์เพียงคนเดียวต่อเนื่องทุกวันบ้าง ทำได้ใช่หรือไม่นั้น ทำได้ถ้าไม่ชี้นำ ปลุกระดม กระทำเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ ส่วนกรณีหลายฝ่ายกังวลบรรยากาศว่าทุกวันนี้มีคนออกมาเคลื่อนไหวมากขึ้น อาจทำให้คนออกมาใช้สิทธิ์ลงประชามตินั้น เชื่อว่าผู้เกี่ยวข้องจะร่วมกันดูแลให้ผ่านไปได้อย่างราบรื่น
นอกจากนี้ รองประธาน สนช.คนที่ 2 ยังกล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยมาตรา 61 วรรคสอง ของ พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ว่า หากศาลชี้ว่าขัด ก็ขัดเฉพาะมาตรา 61 วรรคสอง ไม่ขัดทั้งฉบับ ไม่มีผลจนต้องเลื่อนวันประชามติอย่างแน่นอน เชื่อว่าคงไม่มีการนำกลับมาที่ สนช. เพื่อออก พ.ร.บ.ประชามติฉบับใหม่ เพราะไม่ทันเวลาแล้ว และเชื่อมั่นว่านายกฯ มีทางออก อาจใช้คำสั่ง คสช. ดำเนินการตามที่ศาลรัฐธรรมนูญ แนะนำได้ เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ มีผลผูกพันทุกองค์กรอยู่แล้ว และมีความรวดเร็วกว่า ส่วนหากศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้ตัด มาตรา 61 วรรคสองออก ถือเป็นบกพร่องในการออกฎหมายของ สนช. หรือไม่ นายพีระศักดิ์ ระบุว่า คงต้องรับผิดชอบร่วมกันทั้ง กกต. และ สนช.
อย่างไรก็ตาม กรณีล่าสุดที่ คสช. ใช้มาตรา 44 ย้ายข้าราชการ 23 ราย ที่ถูกเรื่องร้องเรียนเรื่องการทุจริต ตามที่ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) เสนอว่า ต้องดูเหตุผลของคำสั่งมีที่มาที่ไปอย่างไร ถ้าสอบสวนแล้วพบว่าข้าราชการคนใดไม่ได้กระทำผิด นายกฯ พูดไว้แล้วว่าจะรีบคืนความชอบธรรมให้ทั้งหมด เข้าใจว่าการพิสูจน์ยังติดที่กระบวนการของผู้ตรวจเงินแผ่นดิน เชื่อว่าข้าราชการที่ถูกย้ายคงไม่น้อยใจ ถ้าเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ยื่นร้องเรียนมาได้ตามช่องทางของ สนช.
ที่มา: www.thairath.co.th