วันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน 2567 เวลา 10.00 - 12.00 นาฬิกา ณ โรงแรมตรัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวทักทายและพูดคุยกับยุวชนประชาธิปไตยที่เข้าร่วมโครงการรวมรุ่นยุวชนเพื่อการสร้างความเป็นพลเมือง และร่วมรับฟังการเสวนาหัวข้อ บทบาทของยุวสมาชิกรัฐสภาไทยในการขับเคลื่อนการเมืองในรูปแบบของคนรุ่นใหม่ โครงการรวมรุ่นยุวชนเพื่อการสร้างความเป็นพลเมือง
โดยมี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล ประกอบด้วย นายสกล สุนทรวานิชย์กิจ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดปทุมธานี นายปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร น.ส.ทิสรัตน์ เลาหพล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร และ น.ส.ภัสริน รามวงศ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร ร่วมเวทีเสวนา ดำเนินการเสวนาโดย นายไพศาล ฮาแว พิธีกรรายการ Story Live ช่องเนชั่น STORY
โดยการเสวนาในประเด็นเกี่ยวกับบทบาทของยุวสมาชิกรัฐสภาไทยในการขับเคลื่อนการเมืองในรูปแบบของคนรุ่นใหม่ สรุปได้ดังนี้
นายสกล สุนทรวานิชย์ : ชมรมยุวสมาชิกได้ก่อตั้งขึ้นโดยมีสมาชิกรัฐสภาซึ่งประกอบด้วยสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่มีอายุไม่เกิน 45 ปี จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกโดยอัตโนมัติ ซึ่งมีบทบาทหน้าที่ในการถ่ายทอดและผลักดันให้เยาวชนเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองให้มากขึ้น และทำให้ทุกคนเห็นว่าประชาชนมีอำนาจ เพราะปัจจุบันประชาชนยังไม่รู้ว่าตัวเองมีอำนาจ จึงเป็นหน้าที่ของยุวสมาชิกรัฐสภาในการที่จะขับเคลื่อนในเรื่องนี้
นายปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์ : ปัจจุบันจะเห็นได้ว่า เด็กรุ่นใหม่หันมาให้ความสนใจการเมืองมากยิ่งขึ้น และอยากให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น นอกจากนี้อยากให้ทุกคนช่วยกันตรวจสอบทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในสังคม ซึ่งการที่ตนเข้ามาทำงานการเมืองเพราะอยากเห็นประเทศมีการเปลี่ยนแปลง ฉะนั้นหากเด็กรุ่นใหม่มีความคิดสร้างสรรค์ ก็ยินดีที่จะให้เข้ามาทำหน้าแทน เพราะการเมืองเป็นเรื่องของทุกคน
น.ส.ทิสรัตน์ เลาหพล : การที่เข้ามาทำหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มีจุดเริ่มต้นจากการที่คิดว่าปัจจุบันประเทศของเรายังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ยิ่งในช่วงของโควิดมีประชาชนมากมายที่ได้รับความเดือดร้อน จึงอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงเพื่อประชาชนทุกคน โดยหากยุวชนคนใดมีความคิดที่อยากที่จะมาเปลี่ยนแปลงประเทศไปด้วยกัน ก็เข้ามาช่วยคิด ช่วยกันเป็นปากเป็นเสียงแทนประชาชนได้
น.ส.ภัสริน รามวงศ์ : การทำหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรถือเป็นอีกหนึ่งหน้าที่ที่เราจะต้องแบกรับภาระปัญหาของพี่น้องประชาชน ซึ่งเราจะต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาให้ได้ ดังนั้นขอให้ยุวชนที่อยากเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คิดไว้เลยว่าถ้าได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแล้วอยากแก้กฎหมายอะไร อยากจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรในฐานะที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งในอนาคตสิ่งที่อยากจะเห็นก็คือ อยากเห็นสัดส่วนของผู้หญิงที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมากขึ้น
ซึ่งในช่วงท้ายการเสวนาได้เปิดโอกาสให้ยุวชนประชาธิปไตย ซักถามและร่วมแสดงความคิดเห็น โดยยุวชนฯ ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ ในพื้นที่ของตนเองเป็นจำนวนมาก อาทิ ปัญหามลพิษ PM 2.5 ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ปัญหามลพิษการส่งกลิ่นเหม็นของโรงงานในเขตรังสิต จังหวัดปทุมธานี |