วันอังคารที่ 18 มิถุนายน 2567 เวลา 11.30 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง รับยื่นหนังสือจากนายทรงชัย เนียมหอม ประธานกลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน และนาย อัครวุธ ไกรศรีสมบัติ ตัวแทนภาคีกลุ่มราชภักดี และคณะ เรื่องขอยืนยันตัวตนว่าทางกลุ่มไม่ใช่ IO ที่เข้าไปแสดงความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมประชาชน พ.ศ. ....

ตามที่ได้มีการจัดรับฟังความคิดเห็นของภาคประชาชนต่อร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมประชาชน พ.ศ. .... กลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน และภาคีกลุ่มราชภักดี ซึ่งเป็นประชาชาชนคนไทย ได้รวมตัวกันเข้าไปแสดงความคิดเห็น ซึ่งทุกคนที่เข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นบุคคลที่มีตัวตน มีบัตรประชาชน ที่สามารถยืนยันตัวตนได้ จึงไม่อยากให้มีการกล่าวหาว่าเป็นกลุ่ม IO เพียงเพราะเปํนกลุ่มที่มีความเห็นที่แตกต่างกัน

รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง กล่าวว่า ตนได้รับการร้องเรียนในวันที่ 11 - 12 มิ.ย. ที่ผ่านมาว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นในเว็บไซต์รัฐสภากรณีเปิดให้มีการรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมประชาชน พ.ศ. .... ซึ่งความผิดปกติที่เกิดนั้นมีหลายประการด้วยกัน เช่น การกรอกข้อมูลซ้ำหลายรอบ จึงจะ submit ได้ ความผิดปกติเรื่องไม่ต้องแสดงความคิดเห็นเลยแต่สามารถเข้าไปกดโหวตได้ มีความผิดปกติเรื่องยอดจำนวนคนที่เพิ่มขึ้นและลดลงอย่างไม่มีสาเหตุ ตนจึงสั่งให้มีการตรวจสอบความผิดปกติทั้งหมดที่เกิดและตรวจสอบ IP address ของผู้ใช้งาน เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 67 โดยเป็นการสอบ user และ IP address ไม่ใช่เป็นการตรวจสอบบัตรประชาชน ทุกคนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นจะต้องแสดงบัตรประชาชน ซึ่งพบว่ามีบาง IP address ที่มีการใช้งานมากผิดปกติ เช่น คอมพิวเตอร์บางเครื่องเข้ามาใช้ความคิดเห็นมากถึง 5,000 ครั้ง ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นพี่น้องประชาชนที่จะใช้คอมพิวเตอร์ส่วนตัวหรือโทรศัพท์มือถือส่วนตัว นี่เป็นข้อสังเกตซึ่งไม่ได้แบ่งฝ่ายว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แต่ตรวจสอบแล้วพบความผิดปกติ เพราะถ้าเป็นประชาชนคนทั่วไปจะเจอ IP address ใช้งานอยู่หลักสิบ แต่ IP ที่มีการใช้งานถึง 5,000 ครั้ง สันนิษฐานได้ว่าอาจจะเป็นใช้เลขบัตรประชาชนเข้ามาใช้งานอย่างผิดปกติ IP address ไม่ใช่ความผิดปกติอย่างเดียวในการตรวจสอบ แต่ได้สั่งให้มีการตรวจสอบทั้งระบบ เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจในเว็บไซต์ของรัฐสภา

เราไม่ได้กล่าวหาว่าประชาชนที่มาแสดงความคิดเห็นเป็น IO แต่จากการพบเจอความผิดปกติจำเป็นต้องมีการตรวจสอบ เพราะพี่น้องประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างเป็นปัจเจกบุคคล แต่ถ้าเป็นกระบวนการหรือมีการทำให้เกิดการใส่ข้อมูลลงไปเป็นพิเศษอันนี้จึงจะเรียกว่าเป็น IO เว็บไซต์ของรัฐสภาจะเก็บความคิดเห็นของท่านอย่างยุติธรรมที่สุด โดยไม่ตัดสินว่าเป็นใคร พวกไหน และเข้ามาโดยมีวัตถุประสงค์อะไร ที่ไม่สามารถยืนยันตัวตนได้ทันทีหรือเชื่อมต่อระบบ THAI ID เพราะการแสดงความคิดเห็นเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญแต่ไม่ได้เป็นข้อกำหนดทางกฎหมายที่ทำให้กฎหมายนั้นผ่านหรือไม่ผ่าน เพราะฉะนั้นการเข้าชื่อเสนอกฎหมายแบบดิจิทัลสามารถเข้าชื่อรวบรวมกันให้ได้เกิน 10,000 ชื่อสามารถทำได้ระบบดิจิทัลแต่จะต้องมีการยืนยันตัวตนด้วย OTO เท่านั้นไม่ใช้การกรอกเลขบัตรประชาชนธรรมดา การรับฟังความคิดเห็นเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนแสดงความเห็นอย่างปลอดภัยที่สุดโดยไม่มีการลงทะเบียนเพราะในกระบวนการแสดงความคิดเห็นหากยืนยันตัวตนมากจะทำให้คนไม่กล้าแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา ขอให้สบายใจได้ตนไม่เคยคิดว่าทางกลุ่มเป็น IO ไม่ว่าจะมีความเห็นแตกต่างกันอย่างไรไม่มีการเลือกปฏิบัติ ถ้าข้อมูลที่ผิดปกติมาจากฝั่งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยจะรายงานไปตามความเป็นจริง ยอมรับว่าเว็บไซต์ของรัฐสภามีข้อผิดพลาดมากมายที่ทำให้พี่น้องประชาชนจะไม่เชื่อมั่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องกราบขออภัยพี่น้องประชาชนทุกท่านในสิ่งผิดพลาดที่เกิดขึ้น แต่ว่าข้อผิดพลาดเหล่านี้และคำแนะนำของพี่น้องประชาชนจะนำไปสู่การปรับปรุงเว็บไซต์ของรัฐสภาให้ดีขึ้นตามลำดับ