|
|
|
|
วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 เวลา 09.00 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ นายรังสิมันต์ โรม และนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์กุล สส.พรรคก้าวไกล แถลงข่าวประเด็นที่พรรคก้าวไกลขอนับองค์ประชุมในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 31 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เมื่อวานนี้ ( 28 มี.ค. 67) ระหว่างการพิจารณารายงานผลการพิจารณาศึกษา เรื่อง ศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว
นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ กล่าวว่า สส.พรรคก้าวไกล ต้องการให้ถอนรายงานฉบับนี้กลับไปพิจารณาใหม่เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์มากขึ้น และพรรคมีความตั้งใจเป็นอย่างยิ่งที่จะให้ความเห็นชอบกับรายงานฉบับนี้ซึ่งเป็นรายงานที่มีความสำคัญมากผ่านไปโดยมีความสมบูรณ์ของเนื้อหามากที่สุด และเนื้อหาของการอภิปรายเมื่อวานนี้สมาชิกฯ หลายท่านทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านได้มีการอภิปรายไปในทิศทางที่แตกต่างและหลากหลายเนื่องจากรายงานมีความไม่สมบูรณ์หลายจุด และการแถลงของประธานคณะ กมธ. มีข้อติดขัดหลายประเด็นซึ่งมีการยอมรับอย่างกลาย ๆ ว่ารายงานไม่มีความสมบูรณ์ นี่คือเหตุผลที่ทางพรรคต้องการให้มีการถอนรายงานออกไป แต่ทราบว่าประธานคณะ กมธ. ยืนยันว่าจะเดินหน้าต่อโดยไม่สนใจข้อทักท้วงของพรรคฝ่ายค้าน หากย้อนดูในการอภิปรายเมื่อวานนี้ในขณะที่ตนขอนับองค์ประชุม ไม่ได้ยกมือรับรองญัตติในการนับองค์ประชุม เพราะตนต้องการให้รัฐบาลมีการพิจารณาอย่างถึงที่สุด เพราะเป็นการพิจารณาครั้งสุดท้ายในสมัยการประชุมนี้ แต่เมื่อทักท้วงแล้ว แต่คณะ กมธ. ไม่รับฟัง สิ่งที่พรรคฝ่ายค้านมีคือการขอให้นับองค์ประชุม เมื่อดูทิศทางการสื่อสารของเพื่อนสมาชิกในสื่อสังคมออนไลน์หลังจากมีการปิดประชุม ต้องขอชื่นชมรัฐบาลที่สามารถรักษาองค์ประชุมได้ครบถึง 250 คน ซึ่งเป็นหน้าที่ปกติที่ทางสมาชิกฯ ฝ่ายรัฐบาลจะทำให้ได้ เพราะถือเป็นองค์ประชุมหลักที่อยู่ในห้องประชุมอยู่แล้ว สำหรับประเด็นที่มีการพาดพิงการเจรจาการตั้ง กมธ. ที่ผ่านมาฝ่ายค้านทำงานร่วมกับรัฐบาลด้วยดี เคารพในการทำงานด้วยกันมาตลอด แต่การยกประเด็นดังกล่าวขึ้นมาไม่เป็นธรรมกับตน ตนคือผู้ที่ถูกเบี้ยวกระทู้จากทางคณะรัฐมนตรีมาตลอด มติวิปรัฐบาลเมื่อมีการเสนอญัตติช้างป่า วิปรัฐบาลจะส่งให้คณะรัฐมนตรีซึ่งไม่ทำงานมาอย่างยาวนาน ตนจึงไม่เห็นด้วยและต้องการให้สภาศึกษารวบรวมข้อมูลให้มากที่สุดจึงเสนอญัตติดังกล่าว นอกจากพรรคก้าวไกลแล้ว ยังมีพรรคภูมิใจไทยที่เสนอด้วย จึงไม่ต้องการให้ยกประเด็นการเจรจาต่าง ๆ ที่มีการพูดคุยเพื่อแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนมาเป็นเงื่อนไขในการทำงานร่วมกัน เพราะตนเชื่อว่าทุกพรรคการเมืองยึดประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก และหวังว่าในการทำงานร่วมกันหลังจากนี้ ฝ่ายรัฐบาลคงจะไม่เจ้าคิดเจ้าแค้น และพรรคก้าวไกลไม่ได้ขอนับองค์ประชุมทุกครั้ง แต่ที่ทำมีเหตุผลเพื่อความเป็นธรรมและผลประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชน
นายรังสิมันต์ โรม กล่าวเพิ่มเติมว่า จุดประสงค์สำคัญของการศึกษาเรื่องดังกล่าว หากย้อนไปดูจะแยกเป็นสองส่วน ส่วนแรก คือส่วนที่เป็นการแก้ไขปัญหาการพนันผิดกฎหมาย ส่วนที่สองคือธุรกิจ ซึ่งผลการศึกษาต้องมีทั้งสองส่วน แต่รายงานฉบับนี้แทบจะไม่ได้พูดถึงเนื้อหา หรือมีวิธีการอะไรในการแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมาย กลายเป็นว่าตั้งคณะ กมธ. มุ่งเน้นการศึกษาไปที่ธุรกิจเพียงอย่างเดียว พรรคก้าวไกลเองเห็นด้วยกับการที่จะมี Entertainment Complex แต่สิ่งที่จะต้องทำเพื่อให้สอดรับกับสิ่งที่ทางสภาให้ กมธ. ไปศึกษาคือต้องมีผลการศึกษาในการแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายด้วย หากดูในเรื่องธุรกิจ พบว่าหลายภาคส่วนมีข้อกังวลต่าง ๆ หลายเรื่องที่ยังขาดการศึกษาอยู่เหตุผลสำคัญที่ทำให้การศึกษาไม่ครบถ้วนขาดความสมบูรณ์เพราะใช้เวลาการประชุมในการทำหน้าที่ศึกษาเรื่องนี้อย่างรอบด้านน้อยมาก มีการประชุมเพียง 11 ครั้ง เดือนธันวาคมไม่มีการประชุม บางเดือนมีการประชุมเพียงสองครั้ง ผลของการศึกษาที่มีการพูดคุยส่วนใหญ่ไปอยู่ที่ชั้นอนุ กมธ. โดยที่ กมธ.ส่วนใหญ่ไม่มีการพูดคุยหรือหาวิธีการศึกษาเมื่อเป็นลักษณะเช่นนี้ต้องยอมรับว่ารายงานฉบับนี้ไม่มีความสมบูรณ์ ทางพรรคจึงได้มีการทักท้วงว่าควรนำไปปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมให้ดีขึ้น เพราะปัญหาการพนันที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ คือการพนันออนไลน์ และบ่อนตามจังหวัดต่าง ๆ การตั้ง Entertainment Complex จะนำไปสู่การแก้ปัญหาการพนันออนไลน์ หรือจะนำไปสู่การแก้ปัญหาบ่อนตามหัวเมืองต่าง ๆ เพราะบ่อนตามที่ต่าง ๆ ยังไงก็ยังคงมีอยู่เพราะกาสิโนที่ Entertainment Complex ที่จะเกิดขึ้นมีการเก็บค่าเข้า ผู้ที่จะเข้าต้องเป็นผู้มีเงิน ในขณะที่ตามหัวเมืองยังเป็นคนทั่วไป คนหาเช้ากินค่ำที่เข้าได้เหมือนเดิม การพนันออนไลน์เป็นการพนันที่เข้าถึงได้ มีความสะดวกแทบไม่มีมาตรการในเรื่องนี้ แล้วจะให้สภารับรายงานที่ไม่สมบูรณ์ และไม่ตอบโจทย์กับปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน หากถอนรายงานกลับไปเพื่อศึกษาเพิ่มขึ้นให้ตอบโจทย์กับปัญหาที่เกิดขึ้นจึงมีความจำเป็นเป็นอย่างมาก และในรายงานไม่ได้ระบุว่าสถานที่ที่จะมีการไปลงทุนคือที่ไหน มีการพูดกว้าง ๆ 4 จังหวัด แต่สิ่งที่ค่อนข้างกังวลก็คือที่อู่ตะเภาซึ่งได้ข่าวว่ามีการเซ็นสัญญากันไปแล้ว สุดท้ายจะเป็นการผูกขาดและมีบางบริษัทที่ได้โปรเจ็คนี้ไปโดยไม่มีความโปร่งใส และเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลเองตอบไม่ได้ ยังไม่นับการบริหารจัดการที่การเสนอเป็นโมเดลสำหรับบริหารจัดการเรื่องของกาสิโนมีโอกาสที่จะมีประสิทธิภาพต่ำมาก หากจัดการดีจะเป็นโอกาสแต่จัดการไม่ดีจะกลายเป็นวิกฤตจึงเป็นเหตุผลที่พรรคต้องการให้มีการศึกษาเรื่องนี้อย่างรอบด้าน และรอบคอบ แม้พรรคฝ่านค้านจะนั่งเป็นคณะ กมธ. แต่ต้องยอมรับว่าการบริหารจัดการใน กมธ. ก็มีปัญหา ทางพรรคจึงเรียกร้องให้นำกลับไปศึกษาใหม่เพื่อให้รายงานฉบับนี้ออกมาดีที่สุด มีแนวทางการแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมาย สุดท้ายพรรคจึงยืนยันที่จะไม่แสดงตนและไม่เห็นด้วยกับรายงานฉบับนี้
ด้านนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์กุล กล่าวถึงประเด็น การอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ที่มีข่าวว่าฝ่ายรัฐบาลจะดึงเวลาคืนไป และที่มีการกล่าวว่าพรรคก้าวไกลหักมติวิปว่า สิ่งที่พรรคฝ่ายค้านขอนับองค์ประชุมไม่ได้เป็นการผิดข้อตกลง โดยปกติการตกลงกันระหว่างวิปมี 3 ระดับ ระดับแรกคือการตกลงด้วยวาจา อย่างไม่เป็นทางการ ไม่มีเอกสาร ซึ่งหลายครั้งได้รับความร่วมมืออย่างดีสิ่งที่พรรคร่วมรัฐบาลอ้างเมื่อวานว่ามติวิปรัฐบาลเป็นอย่างนี้ มติวิปฝ่ายค้านเป็นเช่นนี้ และพรรคหักข้อตกลงของทั้งสองฝ่ายนั้นไม่เป็นความจริง มติของแต่ละฝ่ายเป็นข้อตกลงของแต่ละฝ่าย และการประชุมวิปเกิดขึ้นก่อนการประชุมสภา ดังนั้น การเปลี่ยนมติของวิปแต่ละฝ่ายเป็นเรื่องปกติ หลายครั้งมติวิปเป็นอย่างหนึ่งแต่มีการคุยแล้วเปลี่ยนเป็นอีกแบบซึ่งมีอยู่เป็นประจำ เพราะมติวิปเป็นข้อตกลงในพรรคร่วมของแต่ละฝั่ง และขอย้ำว่าหลายครั้งมติวิปรัฐบาลมีการออกเอกสารมาแต่ว่ามีการเปลี่ยนแปลงหน้างานอยู่เสมอ มติระดับสูงสุดคือ มติของวิปร่วมของประธาน วิปฝ่ายค้าน และวิปฝ่ายรัฐบาล หรือบางครั้งมีวิป ครม. นี่คือข้อตกลงที่พูดคุยกันในการอภิปราย มาตรา 152 และมีเอกสารอย่างเป็นทางการ ดังนั้นตนคิดว่าการนำเรื่องที่ไม่เป็นทางการมาหักเรื่องที่เป็นทางการมากที่สุดดูไม่สมเหตุสมผล การขอนับองค์ประชุมและการลงมติไม่เห็นด้วยเมื่อวานนี้เป็นเหตุผลด้านเนื้อหา การที่ไม่เห็นด้วยกับรายงานฉบับใดฉบับหนึ่ง จนเป็นเหตุให้นำไปสู่การขอเวลาคืนในการอภิปราย มาตรา 152 เป็นเรื่องจริงหรือ เข้าใจว่าเมื่อวานอาจมีอารมณ์ขุ่นมัว โกรธเคืองกัน ทุกคนมีวุฒิภาวะพอเมื่ออารมณ์เย็นลงคงไม่นำเรื่องนี้มาคิดแก้แค้นกันและใช้เวทีตรวจสอบของฝ่ายค้านที่ใหญ่ที่สุดรองจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจมาเป็นประเด็นหากเป็นจริงจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ฝ่ายรัฐบาลขอเวลาอภิปรายคืนไปเกือบครึ่งหนึ่ง ซึ่งเป็นเวลาที่ฝ่ายค้านจะตรวจสอบรัฐบาล โดยนำเวลาไปอภิปรายเอง แม้แต่รัฐบาลที่สืบทอดจาก คสช. ยังไม่เคยทำ ต้องรอดูต่อไป และตนคาดหวังว่าประธานสภา คงจะไม่ทำตาม อีกประเด็นที่ตนแปลกใจคือการนับองค์ประชุมเมื่อวานเป็นเรื่องปกติมากในสภา ซึ่งการนับองค์ประชุมเป็นอาวุธไม่กี่อย่างที่ฝ่ายค้านมีในฐานะเสียงส่วนน้อย จึงไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงต้องโกรธกันหรือเรื่องที่นายรังสิมันต์ โรม ตั้งข้อสังเกตมีมูลเป็นความจริง จึงได้โกรธที่จะไม่ให้รายงานฉบับนี้ผ่าน เป็นอีกประเด็นที่สื่อมวลชนต้องจับตาดู การอภิปรายตาม ม.152 มีการตกลงกันไปแล้ว อย่าทำเช่นนี้เลยเพราะจะเป็นการสื่อว่าสุดท้ายแล้วรัฐบาลหนีการตรวจสอบมากกว่ารัฐบาลที่แล้วเสียอีก หากมีการดึงเวลาคืนในฐานะที่ตนเป็นเสียงส่วนน้อยซึ่งไม่สามารถทำอะไรได้ หากมีการเปลี่ยนแปลงเวลาจริงแปลว่า ครม. เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ต้องฝากถึง ครม. ว่าจะหนีการตรวจสอบด้วยวิธีง่าย ๆ เช่นนี้หรือ
|
|
|
สงวนลิขสิทธิ์โดย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ๑๑๑๑ ถ.สามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐
Call Center ๑๗๔๓ โทรศัพท์ ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๐๐ โทรสาร ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๙๐
e-Mail : webmaster@parliament.go.th [ คลิกดูแผนที่]
|
|
|
|
